นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติกในจังหวัดสมุทรปราการนั้น ส.อ.ท.ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องการกำหนดมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อความปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดทำโครงการเพื่อยกระดับสถานประกอบการทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองเป็นอีโคแฟคตอรี่ จำนวน 300 แห่ง และกรีนแฟคตอรี่ หรือเทียนเท่า ISO14000 จำนวน 6,000 แห่ง แต่โครงการดังกล่าวต้องหยุดชะงักไป เนื่องจากเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19
"ในอีก 5 ปีคาดว่าจะมีการกำหนดเรื่องกรีนแฟคตอรี่สำหรับผู้ส่งออกแน่นอน ซึ่ง ส.อ.ท.จังหวัดคาดว่าจะผลักดันให้สถานประกอบการ 70% เป็นกรีนแฟคตอรี่ให้ได้ แต่มาเกิดปัญหาโควิด-19 เสียก่อน" นายสุพันธุ์ กล่าว
เนื่องจากโรงงานที่เกิดเหตุก่อสร้างมาก่อนเกิดชุมชนข้างเคียง หากจะให้ย้ายออกไปก็ควรมีมาตรการจูงใจ เช่น การลดภาษีเงินได้จากการขายที่ดิน หรือการจัดหาสถานที่ตั้งให้ใหม่ ซึ่ง ส.อ.ท.เคยเสนอแนวคิดให้ภาครัฐจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมสำหรับผู้ประกอบการ SMEs เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน เพราะพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมจะมีข้อกำหนดเข้มงวดในเรื่องห้ามสร้างที่พักอาศัย การวางระบบกู้ภัย ซึ่งขณะนี้มีการตั้งโรงงานตามใบอนุญาต รง.4 ของกรมโรงงานอุตสาหกรรมราว 6-7 หมื่นแห่ง
ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งดำเนินการเรื่องการจัดหาและการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วประเทศ เพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเกรงว่าอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตของภาคอุตสาหกรรม
"เป้าหมายที่บอกว่าจะฉีดวัคซีนให้ได้ 70% ของประชากรทั้งประเทศภายในปีนี้อาจจะช้าเกินไปแล้ว คงต้องรีบดำเนินการให้เร็วขึ้น" นายสุพันธุ์ กล่าว