นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศให้มีการใช้สิทธิโครงการ "คนละครึ่ง" เฟส 3 เพื่อช่วยพยุงกำลังซื้อของประชาชน และช่วยเหลือร้านค้ารายย่อย ซึ่งเริ่มต้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมานั้น กรมการค้าภายในได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เร่งออกตรวจสอบและติดตามร้านที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง และร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยได้เน้นย้ำให้ร้านค้าต้องปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาหรือจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควรโดยเด็ดขาด
ทั้งนี้ หากพบหลักฐานว่าร้านค้าใดจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินสมควร จะดำเนินคดี ตามมาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากไม่ปิดป้ายแสดงราคา จำหน่าย มีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท
อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีผู้ร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 เกี่ยวกับโครงการละครึ่ง จำนวน 13 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายปลีก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบตามข้อร้องเรียน หากพบการกระทำผิดจริงจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อธิบดีกรมการค้าภายใน ขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยเด็ดขาด หากประชาชนพบร้านค้าที่ฉวยโอกาสปรับราคาสินค้า หรือไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งกรมฯ จะได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ หากพบการกระทำผิดจริงจะดำเนินการคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด