เมอร์ริล ลินช์ ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลการศึกษาร่วมกับบริษัทที่ปรึกษา แคปเจมินี ชี้ว่า เมื่อปีที่แล้ว จีนมีเศรษฐีถึง 345,000 คน สูงเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชีย รองจากญี่ปุ่น
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า จำนวนเศรษฐีชาวจีนที่เพิ่มขึ้น 7.8% จากปีก่อนหน้านี้นั้น ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากตลาดหุ้นจีนที่มีมูลค่าทะยานขึ้นถึง 130% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
ฟรานซิส หลิว ผู้บริหารของเมอร์ริล ลินช์ กล่าวในแถลงการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนขยายตัวอย่างแข็งแกร่งอีกปีในปี 2549 เนื่องจากการส่งออกที่ทะยานขึ้น และการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัว โดยผลตอบแทนจากตลาดหุ้นมีส่วนช่วยทำให้จำนวนเศรษฐีและรายได้ของเศรษฐีเหล่านี้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ จีนยังมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมาก หรือที่เรียกว่าบุคคลที่มีมูลค่ารายได้สูงมากถึง 4,935 คน ซึ่งมีสินทรัพย์ทางการเงินสูงกว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เดิร์ค ชานมูลเลอร์ ผู้บริหารของเคปเจมินี กล่าวว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วสะท้อนให้เห็นถึงจำนวนมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยจำนวนมาก เนื่องจากจีนเป็นที่อยู่ของมหาเศรษฐีในสัดส่วนมากกว่า 28% ในเอเชียแปซิฟิค
ผลการสำรวจดังกล่าวได้รับการเปิดเผยหลังจากที่ได้มีการเปิดเผยรายชื่อบุคคลผู้ร่ำรวยในรอบปี ซึ่งชี้ให้เห็นจำนวนเศรษฐีในประเทศที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก โดยข้อมูลล่าสุดได้มีการตีพิมพ์ไม่นานนักก่อนที่จะมีการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปักกิ่ง โดยจำนวนเศรษฐีที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นหนึ่งในวาระสำคัญในที่ประชุม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--