รมช.คลัง แจงสาเหตุที่รัฐบาลต้องเร่งกู้เงินดอลลาร์ เพื่อนำมาก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจกต์ ช่วงที่เงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง ถือเป็นการฉวยโอกาสดี เพราะจะช่วยลดภาระเมื่อชำระหนี้ ยอมรับ แม้ว่าจะตกลงสัญญากู้เงินกับจีนไปแล้ว แต่ยังต้องการกู้เงินจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น(เจบิก)อีกหลายโครงการ
นายสมหมาย ภาษี รมช.รคลัง กล่าวว่า การที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้อนุมัติกรอบความตกลงทั่วไประหว่าง กระทรวงการคลังกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน วงเงินกู้ไม่เกิน 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยจีนจะให้ไทยกู้เงินเพื่อสนับสนุนการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์จากจีน สำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ซึ่งมีสัดส่วนสินค้าจากจีนจะไม่น้อยกว่า ร้อยละ 50 ของโครงการที่ได้รับความเห็นชอบทั้งสองประเทศ มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี ระยะเงินกู้ 15 ปี โดยมีระยะเวลาปลอดหนี้ 5 ปี
ทั้งนี้ กรอบตกลงดังกล่าวนับว่าเป็นเงื่อนไขการกู้ยืมเงินที่ผ่อนปรนมาก และถึงแม้จะทำความตกลงในกรอบทั่วไปกับจีน แต่ไทยก็ยังต้องการกู้เงินจากเจบิก เพราะยังต้องก่อสร้างเมกกะโปรเจกต์อีกหลายโครงการในระยะยาว จึงต้องเดินหน้าเจรจาร่วมกับเจบิกอย่างต่อเนื่อง และมองว่าการประกอบระบบรางรถไฟ หรืองานทั่วไปของระบบรางจีนน่าจะทำได้ดี แต่หากเป็นการสร้างระบบขาดใหญ่ทางญี่ปุ่นก็ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ต้องการให้เข้ามาช่วยเหลือ
"ขณะนี้เงินดอลลาร์สหรัฐได้มีแนวโน้มอ่อนค่าลง จึงเป็นโอกาสที่เหมาะสมในการกู้เงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เพราะจะช่วยลดภาระเมื่อต้องชำระคืนเงินกู้"รช.คลังกล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--