(เพิ่มเติม) ครม.อนุมัติรูปแบบลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง รัฐสร้างราง-เอกชนเดินรถ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 2, 2007 15:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติรูปแบบการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง(บางใหญ่-บางซื่อ) โดยให้กระทรวงคมนาคมเริ่มประกาศชวนเอกชนร่วมประมูลภายในเดือน ต.ค.นี้ และคาดว่าจะเซ็นสัญญากับเอกชนที่เข้ามารับก่อสร้างได้ภายในเดือน พ.ค.-มิ.ย.51
ทั้งนี้ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) ได้เสนอ ครม.ให้อนุมัติรูปแบบการลงทุนก่อสร้างโครงการดังกล่าว โดยกำหนดให้มีการร่วมทุนในลักษณะ PPP(Public Private Partnership) หรือการที่รัฐบาลลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนเอกชนลงทุนระบบรถไฟฟ้า และบริหารการเดินรถ
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง(บางใหญ่-บางซื่อ) มีระยะทาง 23 กิโลเมตร และใช้เงินลงทุน 55,997 ล้านบาท โดยในวันนี้ ครม.ได้อนุมัติในส่วนของงานโยธาวงเงินก่อสร้าง 31,217 ล้านบาท และค่าจ้างที่ปรึกษาอีกจำนวน 1,278 ล้านบาท
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้มอบหมายให้ รฟม.ร่างทีโออาร์และประกาศเชิญชวนเอกชนเข้ามารับงานบริหารการเดินรถในเส้นทางนี้ ซึ่งคาดจะใช้เวลาร่างทีโออาร์ราว 3 เดือน จากนั้น สศช.จะตั้งคณะทำงานมาตรวจรายละเอียดอีก 3 เดือน โดยรวมแล้วคาดว่าจะใช้เวลา 6-8 เดือน จากนั้นเปิดประมูลราว มี.ค.-เม.ย.51
ครม.เห็นชอบเห็นชอบแนวทางการที่ให้เอกชนมาร่วมลงทุนแบบ PPP ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง เพื่อเอกชนเป็นผู้ลงทุนตัวรถไฟฟ้าและระบบการบริหาร เพราะแนวทางการนี้จะช่วยลดภาระเงินอุดหนุนของรัฐบาล และยังทำให้การบริหารที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพในการให้บริการกับประชาชน
โครงการนี้จะช่วยบรรเทาปัญหาด้านจราจร ช่วยประหยัดพลังงาน รวมถึงสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากการลงทุนและการจ้างงาน โดยเห็นว่าเงินบาทแข็งค่าในช่วงนี้จะช่วยการนำเข้าเครืองจักรอุปกรณ์ได้ต่ำลง
ครม.ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าการก่อสร้างโครงการนี้ควรจ้างแรงงานไทย รวมถึงการใช้เทคโนโลยีของไทย เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมในประเทศ พร้อมกันนี้เร่งให้ประมูลไปตามขั้นตอน เพื่อให้การก่อสร้างรถไฟฟ้าเริ่มได้โดยเร็ว ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือน พ.ค.-มิ.ย. 51 คาดจะสร้างแล้วเสร็จราวปี 54 หรือ ปี 55

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ