(เพิ่มเติม) ผู้ว่าธปท.จับตาราคาน้ำมันใกล้ชิด รับห่วง second round effect เงินเฟ้อ

          นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) กล่าวว่า ขณะนี้ธปท.กำลังจับตาความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันที่เร่งตัวขึ้นอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นห่วงผลกระทบในลักษณะ second round effect ต่ออัตราเงินเฟ้อ โดยเฉพาะจากราคาสินค้าที่จะปรับตัวขึ้นตามทิศทางของราคาน้ำมัน  
          อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ธปท.ยังไม่มีแผนจะปรับเปลี่ยนเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจากกรอบที่กำหนดไว้ 0-3.5% 
          "เราจะติดตามติดตาม ดูแล และควบคุมอย่างใกล้ชิด ยืนยันว่าไม่ปรับเป้าเงินเฟ้อเพราะเป้าหมายเป็นสิ่งที่ต้องพยายามทำให้ได้ ไม่ใช่ปรับขึ้นปรับลง" ผู้ว่า ธปท.ระบุ  
          นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธปท.กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบ ณ 23 ต.ค.อยู่ที่ 75 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ยังไม่ถึงระดับที่ตั้งสมมติฐานในขั้วเลวร้ายไว้ที่ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในช่วงไตรมาส 4/50 แต่หากราคาน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยปรับขึ้นไปมากกว่านี้ หรือเข้าใกล้ 90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ธปท.ก็จะปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบใหม่ 
          หากสมมติฐานราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นจากที่ตั้งสมมติฐานไว้ดังกล่าว ก็จะทำให้มีผลกระทบทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ(จีดีพี)ลดลงจากที่ประมาณการไว้ที่ 4.4% ในปีนี้มาอยู่ที่ 4.3%  เนื่องจากราคาน้ำมันที่เร่งตัวขึ้นจะส่งผลกดดันอัตราเงินเฟ้อให้เร่งขึ้นไปด้วย
          สำหรับการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า ธปท.ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับขึ้นราว 2% ซึ่งคำนวณแล้วก็ยัง อยู่ในกรอบของประมาณการเงินเฟ้อของธปท. นอกจากจะมีการต่อรองขึ้นราคาค่าจ้างเพิ่มขึ้น แต่ผลสรุปที่ได้ก็คงต้องดูผลกระทบของเงินเฟ้อด้วย 
          นางอมรา กล่าวอีกว่า หากเศรษฐกิจฟื้นตัว ก็จะทำให้ domestic demand ปรับตัวดีขึ้น ค่าจ้างแรงงานก็จะเพิ่มขึ้น สร้างแรงกดดันต่อการเร่งตัวของเงินเฟ้อ แต่ปัจจุบันความต้องการภายในประเทศยังขยายตัวไม่มาก จึงไม่ได้สร้างแรงกดดันต่อเงินเฟ้อมากนัก แต่ในปีหน้า ธปท.ประมาณการจีดีพีขยายตัวไว้ที่ 4.5-6.0% ซึ่งมีความเสี่ยง 2 ด้าน คือการเร่งตัวของ domestic demand ที่จะสร้างแรงกดดันต่อเงินเฟ้อให้เร่งตัวขึ้นด้วย 
          หากจีดีพีขยายไปในกรอบบนหรือ 6% ก็จะสร้างแรงกดดันเพิ่มขึ้นอีก แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อแม้จะสูงขึ้น แต่ก็จะยังอยู่ในเป้าหมายของกรอบอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ 0-3.5% 
          อนึ่ง ธปท.คาดการณ์จีดีพีปี 50 ขยายตัวในระดับ 4.3-4.8% อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน 0.8-1.3% อัตราเงินเฟ้อทั่วไป 1.8-2.3 ขณะที่ปี 51 คาดการณ์จีดีพีที่ 4.5-6.0% อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน 1.2% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไป 1.5-2.8%