สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (สงร.) และสถาบันการเงินสมาชิกทุกแห่ง ออกประกาศแนวทางในการให้บริการลูกค้าเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการของภาครัฐ ตามที่ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 28) เพื่อกำหนดมาตรการที่จำเป็นและเร่งด่วน เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ 13 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครปฐม นนทบุรี นราธิวาส ปทุมธานี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา สงขลา สมุทรปราการ และ สมุทรสาคร โดยกำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และให้มีผลบังคับใช้วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ดังนี้
1. ธนาคารของรัฐ จะปิดให้บริการสาขาในห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ทั้ง 13 จังหวัดเป็นการชั่วคราว ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครปฐม นนทบุรี นราธิวาส ปทุมธานี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา สงขลา สมุทรปราการ และ สมุทรสาคร ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป และจะพิจารณาปิดให้บริการสาขาบางแห่งเพิ่มเติมตามความจำเป็น โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบสาขาใกล้เคียงที่เปิดให้บริการได้ตามประกาศที่ทาง website ของแต่ละธนาคาร
2. กำหนดเวลาเปิดทำการสาขา ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ดังนี้
- สาขาในห้าง/สาขาที่เปิดให้บริการไม่เกิน 17.00 น. ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนอกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จะยังคงเปิดให้บริการเวลาไม่เกิน 17.00 น.
- สาขาทั่วไป ที่ไม่ใช่สาขาธนาคารในห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ เปิดให้บริการไม่เกินเวลา 15.30 น.
- สาขาใน 3 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย ยะลา นราธิวาส และปัตตานี เปิดให้บริการเวลาไม่เกินเวลา 15.00 น.
3. จำกัดช่องให้บริการและจำนวนลูกค้าในสาขา เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม และลดความแออัด
4. กรณีสาขามีพนักงานหรือลูกค้าติดเชื้อ ให้ปฏิบัติ ดังนี้
- ให้แต่ละธนาคารปิดบริการสาขาที่มีผู้ติดเชื้อเป็นการชั่วคราว เพื่อทำความสะอาด/ฆ่าเชื้อ และกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อดำเนินการเสร็จสิ้น
- พนักงานที่สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย ให้ตรวจหาเชื้อ/และกักตัวเองในที่พักทันที ตามระยะเวลาที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
- จัดให้มีพนักงานปฏิบัติงานทดแทน และต้องเป็นพนักงานที่ไม่เกี่ยวข้องหรือสัมผัสเชื้อ
ทั้งนี้ สถาบันการเงินของรัฐ และธนาคารสมาชิกทุกแห่ง พร้อมให้บริการลูกค้าในที่ทำการสาขา ด้วยมาตรการข้างต้น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน และลูกค้ายังสามารถใช้บริการสำคัญของธนาคารได้ทางช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ตู้ ATM ซึ่งธนาคารทุกแห่งได้เตรียมสำรองธนบัตรไว้อย่างเพียงพอ รวมถึง Application Mobile Banking ของแต่ละธนาคาร เพื่อลดการเดินทาง ลดความเสี่ยง และการสัมผัสธนบัตร เพื่อให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อไป
โดยสถาบันการเงินของรัฐ และสถาบันการเงินสมาชิกทุกแห่ง พร้อมจะมีมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น เพื่อดูแลให้ลูกค้าประชาชนได้รับความปลอดภัยในการใช้บริการทางการเงินกับธนาคารมากที่สุดต่อไป
สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (สงร.) และสถาบันการเงินสมาชิกทุกแห่ง ประกอบด้วย ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(ธสน.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ธอท.) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)