นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติรูปแบบการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง(บางใหญ่-บางซื่อ) โดยให้กระทรวงคมนาคมเริ่มประกาศชวนเอกชนร่วมประมูลภายในเดือน ต.ค.นี้ และคาดว่าจะเซ็นสัญญากับเอกชนที่เข้ามารับก่อสร้างได้ภายในเดือน พ.ค.-มิ.ย.51
ทั้งนี้ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) ได้เสนอ ครม.ให้อนุมัติรูปแบบการลงทุนก่อสร้างโครงการดังกล่าว โดยกำหนดให้มีการร่วมทุนในลักษณะ PPP(Public Private Partnership) หรือการที่รัฐบาลลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนเอกชนลงทุนระบบรถไฟฟ้า และบริหารการเดินรถ
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง(บางใหญ่-บางซื่อ) มีระยะทาง 23 กิโลเมตร และใช้เงินลงทุน 55,997 ล้านบาท โดยในวันนี้ ครม.ได้อนุมัติในส่วนของงานโยธาวงเงินก่อสร้าง 31,217 ล้านบาท และค่าจ้างที่ปรึกษาอีกจำนวน 1,278 ล้านบาท
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้มอบหมายให้ รฟม.ร่างทีโออาร์และประกาศเชิญชวนเอกชนเข้ามารับงานบริหารการเดินรถในเส้นทางนี้ ซึ่งคาดจะใช้เวลาร่างทีโออาร์ราว 3 เดือน จากนั้น สศช.จะตั้งคณะทำงานมาตรวจรายละเอียดอีก 3 เดือน โดยรวมแล้วคาดว่าจะใช้เวลา 6-8 เดือน จากนั้นเปิดประมูลราว มี.ค.-เม.ย.51
ครม.เห็นชอบเห็นชอบแนวทางการที่ให้เอกชนมาร่วมลงทุนแบบ PPP ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง เพื่อเอกชนเป็นผู้ลงทุนตัวรถไฟฟ้าและระบบการบริหาร เพราะแนวทางการนี้จะช่วยลดภาระเงินอุดหนุนของรัฐบาล และยังทำให้การบริหารที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพในการให้บริการกับประชาชน
โครงการนี้จะช่วยบรรเทาปัญหาด้านจราจร ช่วยประหยัดพลังงาน รวมถึงสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากการลงทุนและการจ้างงาน โดยเห็นว่าเงินบาทแข็งค่าในช่วงนี้จะช่วยการนำเข้าเครืองจักรอุปกรณ์ได้ต่ำลง
ครม.ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าการก่อสร้างโครงการนี้ควรจ้างแรงงานไทย รวมถึงการใช้เทคโนโลยีของไทย เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมในประเทศ พร้อมกันนี้เร่งให้ประมูลไปตามขั้นตอน เพื่อให้การก่อสร้างรถไฟฟ้าเริ่มได้โดยเร็ว ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือน พ.ค.-มิ.ย. 51 คาดจะสร้างแล้วเสร็จราวปี 54 หรือ ปี 55
อย่างไรก็ดี นายประภัสร์ กล่าวว่า รายละเอียดรูปแบบการร่วมทุนของเอกชน และการคำนวณค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้น รฟม. จะเชิญกรมธนารักษ์ , สศช. และสำนักงบประมาณ มาหารือในรายละเอียดให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้การดำเนินงานในส่วนนี้ล่าช้า ซึ่ง รฟม.พยายามจะเร่งขบวนการจัดหาเอกชนเข้ามาร่วมทุนให้ได้หลังจากเริ่มลงนามสัญญาก่อสร้างไม่เกิน 1 ปี เพราะหากล่าช้ากว่านี้อาจมีผลให้งานก่อสร้างเสร็จก่อน โดยที่ยังไม่มีผู้มาเดินรถ
อย่างไรก็ดี กรณีการคำนวณค่าจัดกรรมสิทธ์ที่ดินที่ผ่านมานั้น นายประภัสร์ กล่าวว่า การกำหนดค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง กำหนดโดยใช้เกณฑ์การกำหนดค่าทดแทนของคณะกรรมการตามกฎหมายเวนคืน ซึ่ง รฟม. ไม่ได้เป็นผู้กำหนดเอง และเป็นเพียงตัวเลขประมาณการณ์เท่านั้น โดยหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นว่าต้องการให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ใด รฟม.ก็พร้อมดำเนินการ
ขณะที่ นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง กล่าวว่า หากการจ่ายเงินค่าเวนคืนกรรมสิทธิที่ดินหากประเมินมาแล้วมีมูลค่าสูงกว่าที่เคยประเมินไว้ก็จะดำเนินการตามนั้น แต่ถ้าราคาประเมินต่ำกว่าก็จะใช้ราคาตามนั้น
ด้านพล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ภายในสิ้นเดือนต.ค.นี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอแผนการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ให้ครม.อนุมัติดำเนินโครงการ ซึ่งถือเป็นการเร่งรัดแผนงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง และจะทำให้สามารถเปิดใช้งานโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงได้เต็มระบบ คือช่วงรังสิต-บางซื่อ-ตลิ่งชันได้เร็วขึ้น
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--