ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบยูโร หลังอีซีบีส่งสัญญาณขึ้นดบ.

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากหนึ่งในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้แสดงความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และย้ำว่าอีซีบีอาจจะใช้มาตรการสกัดกั้นเงินเฟ้ออย่างเข้มงวดมากขึ้น 
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.4217 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.4132 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แคนาดาแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 97.62 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 98.14 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์แคนาดา 
          อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 2.0337 ปอนด์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 2.0416 ปอนด์ต่อดอลลาร์
          ไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ นิวยอร์กกล่าวว่า "ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันอย่างหนักหลังจากนายเอ็กเซล เวเบอร์ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบีส่งสัญญาณว่า อีซีบีอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ซึ่งทำให้ดอลลาร์อ่อนตัวลงหลังจากที่ทะยานขึ้นแข็งแกร่งในช่วงเช้า เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐที่ปรับตัวลดลง"
          นายเวเบอร์กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในทวีปยุโรปอาจทำให้อีซีบีต้องใช้มาตรการเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจ ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของนายเวเบอร์ทำให้นักลงทุนตีความว่า อีซีบีพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงก็จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงอีก
          ในช่วงเช้านั้น ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดขาดดุลการค้าในเดือนส.ค.ลดลงสู่ระดับ 5.76 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะขาดดุลการค้า 5.90 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค.
          เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ค่าเงินดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากรายงานการประชุมของเฟดที่ระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดมีความเห็นพ้องต้องกันว่า วิกฤตการณ์สินเชื่อตึงตัวและปัญหาในตลาดซับไพรม์ของสหรัฐทำให้เฟดพร้อมที่จะเข้าแทรกแซงตลาด หลังจากที่เฟดได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.