นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนมิ.ย.64 ว่า มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ 6,093 ราย เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดจดทะเบียนธุรกิจใหม่ 5,731 ราย และเพิ่มขึ้น 9% จากเดือนพ.ค. 64 ที่มียอดจดทะเบียนธุรกิจใหม่ 5,568 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 20,921.90 ล้านบาท
สำหรับประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 649 ราย คิดเป็น 11% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 301 ราย คิดเป็น 5% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึงคนโดยสาร จำนวน 240 ราย คิดเป็น 4%
ส่วนธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการในเดือนมิ.ย. 64 มีจำนวน 1,048 ราย ลดลง 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มี 1,336 ราย แต่เพิ่มขึ้น 32% จากเดือนพ.ค.64 ที่มี 792 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 3,145.81 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 74 ราย คิดเป็น 7% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 73 ราย คิดเป็น 7% และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการ จำนวน 39 ราย คิดเป็น 4%
ขณะที่มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ ในครึ่งปีแรก 2564 จำนวน 41,022 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 133,208.18 ล้านบาท ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 3,539 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1,844 ราย คิดเป็น 5% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึง คนโดยสาร 1,132 ราย คิดเป็น 3%
ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการในครึ่งปีแรก 2564 มีจำนวน 4,930 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 30,458.90 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 3,539 ราย คิดเป็น 9% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1,844 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึงคนโดยสาร 1,132 ราย คิดเป็น 3%
ทั้งนี้ ส่งผลให้มีธุรกิจเปิดดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศทั้งสิ้น (ณ วันที่ 30 มิ.ย. 64) จำนวน 803,794 ราย มูลค่าทุน 19.59 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 196,631 ราย คิดเป็น 24.46% บริษัทจำกัด 605,864 ราย คิดเป็น 73.38% และบริษัทมหาชนจำกัด 1,299 ราย คิดเป็น 0.16%
นายทศพล ยังกล่าวถึงการลงทุนประกอบธุรกิจในไทยของคนต่างด้าว ประจำเดือน มิ.ย. 64 ภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวว่า ในเดือนมิ.ย. 64 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น 47 ราย แบ่งเป็น ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 13 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ 34 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 4,889 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ อเมริกา 13 ราย เงินลงทุน 221 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ สิงคโปร์ 10 ราย เงินลงทุน 807 ล้านบาท และญี่ปุ่น 8 ราย เงินลงทุน 2,041 ล้านบาท ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ คนต่างชาติได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ 264 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 40,322 ล้านบาท