น.ส.สภัทร์พร ธรรมาภรณ์พิลาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง สำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้มีหนังสือขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เข้าร่วมมาตรการเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบให้กับลูกหนี้ตามความเหมาะสม เพื่อร่วมกันฟันฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 ภาพรวมการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ มีจำนวนผู้ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ และเปิดดำเนินการแล้วสะสมสุทธิ 985 ราย ใน 75 จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (579 ราย) รองลงมา ได้แก่ ภาคกลาง (161 ราย) ภาคเหนือ (126 ราย) ภาคตะวันออก (67 ราย) และภาคใต้ (52 ราย)
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 ที่กระทรวงการคลังได้เปิดให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 ได้มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 553,974 บัญชี รวมเป็นวงเงิน 12,698.10 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 22,921.83 บาทต่อบัญชี ซึ่งมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
1. สินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 มีจำนวนผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์สะสมสุทธิทั้งสิ้น 885 ราย ใน 74 จังหวัดและมีจำนวนผู้เปิดดำเนินการแล้ว 847 รายใน 74 จังหวัดโดยจังหวัดที่มีผู้เปิดดำเนินการมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา (79 ราย) กรุงเทพมหานคร (67 ราย) และขอนแก่น (51 ราย)
2. สินเชื่อประเภทพิโกพลัส ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 มีจำนวนผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกพลัสสะสมสุทธิทั้งสิ้น 156 รายใน 49 จังหวัด และมีจำนวนผู้เปิดดำเนินการแล้ว 138 ราย ใน 45จังหวัด โดยจังหวัดที่มีผู้เปิดดำเนินการมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา (20 ราย) อุดรธานี (9 ราย) อุบลราชธานี และกรุงเทพมหานคร (จังหวัดละ 8 ราย)
3. ภาพรวมสถานะสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 มียอดสินเชื่อคงค้างจำนวนทั้งสิ้น 198,217 บัญชี คิดเป็นจำนวนเงิน 4,233.97 ล้านบาท โดยมีสินเชื่อค้างชำระ 1-3 เดือน สะสมรวมทั้งสิ้น 27,432 บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงินสะสมรวม 627.87 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 14.83% ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม และมีสินเชื่อค้างชำระที่เกินกว่า 3 เดือน (NPL) สะสมรวมจำนวน 32,440บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงินสะสมรวม 748.27 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 17.67% ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม