ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.65-33.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ สำหรับสัปดาห์ถัดไป (2-6 ส.ค.) ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงินของกนง. (4 ส.ค.) อัตราเงินเฟ้อของไทยเดือนก.ค.รวมถึงสถานการณ์และมาตรการควบคุมโควิด-19 ในประเทศ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร การจ้างงานภาคเอกชนรายงานโดย ADP ดัชนี PMI และ ISM ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนก.ค. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษตลอดจนการรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนก.ค. ของจีน ยูโรโซน และอังกฤษด้วยเช่นกัน
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 15 เดือนครึ่งที่ 32.99 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงท่ามกลางความกังวลต่อการเร่งตัวขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศที่สร้างแรงกดดันต่อความสามารถในการรองรับสถานการณ์ของระบบสาธารณสุขไทย
นอกจากนี้เงินบาทยังเผชิญแรงขายตามค่าเงินหยวนและบางสกุลเงินในภูมิภาค ในช่วงต้นสัปดาห์ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงอ่อนค่าและฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนหลังผลการประชุมเฟดที่สะท้อนว่า เฟดน่าจะยังไม่รีบคุมเข้มนโยบายการเงินในอนาคตอันใกล้กดดันเงินดอลลาร์ฯให้อ่อนค่าลง
ในวันศุกร์ (30 ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.87 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.91 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (23 ก.ค.)