นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)ในวันที่ 18 ต.ค.นี้จะมีการพิจารณาเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับการรับซื้อไฟฟ้าจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการน้ำเทิน 1 กำลังการผลิต 523 เมกะวัตต์, โครงการน้ำงึม 3 กำลังการผลิต 440 เมกะวัตต์, โครงการน้ำเทินหินบุนส่วนต่อขยาย กำลังการผลิต 220 เมกะวัตต์ และโครงการเซเบียนเซน้ำน้อย กำลังการผลิต 390 เมกะวัตต์
รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ส่วนราชการทุกแห่งเสนอเรื่องที่เกี่ยวกับนโยบายให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนภายในเดือนต.ค.นี้ก่อนที่จะมี พ.ร.ฎ.การเลือกตั้ง ออกมาบังคับใช้ เพราะหลังจากนั้นรัฐบาลจะมีสถานะเป็นรัฐบาลรักษาการ นายกรัฐมนตรีจึงไม่อยากเข้าไปดำเนินการเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนโยบายอีก
โดยนโยบายที่กระทรวงพลังงานต้องการเร่งรัดจะเสนอเข้าที่ประชุม กพช.ในวันที่ 18 ต.ค.นี้ ได้แก่ การพิจารณาปรับสัดส่วนหุ้นที่กระจายในตลาดหลักทรัพย์ของโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(SPRC), พิจารณาให้ผู้ค้าน้ำมันในประเทศสามารถส่งออกเอทานอลได้ เป็นต้น
และ บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) ได้แจ้งต่อกระทรวงพลังงานว่า บริษัทพร้อมจะเปิดจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮออล์ E20 (มีส่วนผสมเอทานอล 20%) ในประเทศต้นปี 51 ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายของกรมสรรพาสามิตที่จะลดภาษีให้กับผู้นำเข้ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน น้ำมันแก๊สโซฮออล์ E20 เข้ามาจำหน่าย ในปีหน้าเช่นกัน
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานจะเร่งรัดการประกาศลอยตัวก๊าซหุงต้ม พร้อมปรับโครงสร้างราคาใหม่ให้สอดคล้องกับราคาตลาดโลก จากปัจจุบันรัฐบาลและผู้ประกอบการอุดหนุนราคาอยู่ โดยรัฐชดเชยราคาเพดาน 2 บาท/กก.ผ่านกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งปัจจุบันรัฐชดเชยที่ราคา 0.90 บาท/กก. ส่วนผู้ประกอบการจ่ายชดเชยให้ 10 บาท/กก.
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การประชุม กพช.ในวันที่ 18 ต.ค.นี้ กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอที่ประชุมยกเลิกการชดเชยราคาก๊าซหุงต้มในส่วนที่รัฐต้องจ่ายค่าชดเชย 2 บาท/กก. แต่ให้เอกชนปรับราคาก๊าซหุงต้มได้อีก 1 บาท/กก. ทำให้ราคาก๊าซหุงต้มที่ขายให้ประชาชนปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 2 บาท/กก. ซึ่งจากการศึกษาของกระทรวงพลังงานพบว่ามีผลกระทบต่อครัวเรือนไม่มาก และ อัตราเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ รัฐจะยกเลิกการจ่ายชดเชยทันที หลังใช้หนี้กองทุนน้ำมันหมดประมาณกลางเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งจะช่วยลดภาระกองทุนน้ำมันฯ ไปได้เดือนละประมาณ 300 ล้านบาท
ขณะเดียวกันกระทรวงพลังงานจะมีการปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกทั้งเบนซินและดีเซลให้กับประชาชนจำนวน 0.50 บาท/ลิตร ซึ่งจะช่วยลดภาระจากราคาก๊าซหุงต้มที่เพิ่มขึ้น
"เรามองว่าที่ต้องเร่งเสนอเรื่องนี้เข้าไป เพราะมองว่าอาจเป็นการประชุม กพช.ครั้งสุดท้ายในรัฐบาลนี้ เนื่องจากจะมีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ทำให้ไม่สามารรถกำหนดงานด้านนโยบายอื่นๆ เพิ่มเติมได้" แหล่งข่าว กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/เสาวลักษณ์/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--