ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราฮ่องกงบ่ายวันนี้ (18 ต.ค.) จากกระแสความกังวลที่ว่าข้อมูลที่ซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และอัตราเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งในไตรมาสนี้
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐบ่งชี้ว่า ข้อมูลตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตสร้างบ้านเมื่อเดือนที่ผ่านมาปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 14 ปี ซึ่งเป็นผลจากวิกฤติซับไพรม์สหรัฐ ขณะที่รายงานอีกฉบับระบุว่า อัตราเงินเฟ้อซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานในเดือนก.ย.ย่ำฐานทรงตัวที่ระดับ 0.2% เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันแล้ว
โทมัส แลม นักวิเคราะห์จากธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีย์กล่าวว่า "เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงทันทีหลังจากที่สหรัฐรายงานตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดว่า เฟดอาจปรับดลดดอกเบี้ยลง 0.50% ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้"
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 14.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.4251 ดอลลาร์ต่อยูโรจากระดับ 1.4210 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดออสเตรเลียเช้านี้ และจาก 1.4211 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ การที่ IMF ประกาศลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปี 2551 ลงเกือบ 1% ยังเป็นปัจจัยที่กดดันเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลงด้วยเช่นกัน
โดย IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 1.9% ในปีหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2.8% พร้อมทั้งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจปีนี้จะชะลอตัวลงแตะ 1.9% จากระดับ 2.9% ในปี 2549
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--