นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันรอบ 6 เดือนของปี 64 (ม.ค.-มิ.ย.) ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.7% สาเหตุหลักมาจากการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ที่ลดลง 53.9% สำหรับการใช้กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 0.2% แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ กลุ่มดีเซลลดลง 1.1% น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 19.7% น้ำมันก๊าดเพิ่มขึ้น 0.7% LPG เพิ่มขึ้น 10.2% และ NGV ลดลง 18.6%
การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเดือน ม.ค.-มิ.ย.64 เฉลี่ยอยู่ที่ 29.7 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย 0.2% โดยปริมาณดังกล่าวเป็นระดับที่ต่ำกว่าปกติ ทั้งนี้ พบว่าปริมาณการใช้กลุ่มแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 29.0 ล้านลิตร/วัน หรือเพิ่มขึ้น 0.5% โดยเฉพาะแก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นจาก 13.9 ล้านลิตร/วัน มาอยู่ที่ 15.2 ล้านลิตร/วัน ในขณะที่การใช้น้ำมันเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 0.7 ล้านลิตร/วัน หรือลดลง 11.4%
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาการใช้กลุ่มเบนซินเฉพาะเดือน มิ.ย.64 พบว่าการใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 29.2 ล้านลิตร/วัน เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (เดือน พ.ค.64 อยู่ที่ 26.1 ล้านลิตร/วัน) หรือเพิ่มขึ้น 12.2% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของทุกชนิดน้ำมัน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ส่วนตัวมากขึ้น ประกอบกับประชาชนบางส่วนได้รับวัคซีน โดยตัวเลขการฉีดวัคซีนสะสมเข็มที่ 1 มีจำนวน 7.1 ล้านราย และเข็มที่ 2 มีจำนวน 2.8 ล้านราย (สะสม 8 ก.พ.ถึง 30 มิ.ย.64) นอกจากนี้ในช่วงก่อนวันที่ 28 มิ.ย.64 ยังมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมทั้งพื้นที่อื่นๆ
การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเดือน ม.ค.-มิ.ย.64 เฉลี่ยอยู่ที่ 64.9 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย 1.1% สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 38.1 ล้านลิตร/วัน หรือลดลง 18.4% น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ซึ่งเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค.62 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 23.5 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 1.1 ล้านลิตร/วัน
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วเฉพาะเดือน มิ.ย.64 เทียบกับ มิ.ย.63 พบว่า ปริมาณการใช้ลดลงค่อนข้างมากจาก 62.7 ล้านลิตร/วัน มาอยู่ที่ 59.3 ล้านลิตร/วัน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในปีนี้ที่ทวีความรุนแรงขึ้นและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 4.6 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 53.9% เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและการเดินทางโดยเครื่องบิน ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 16.5 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.2% เนื่องจากการใช้ในภาคปิโตรเคมีที่สูงขึ้นมาอยู่ที่ 7.3 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 21.8% และการใช้ในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.9 ล้านกก./วัน หรือเพิ่มขึ้น 14.0% สำหรับภาคครัวเรือนมีการใช้อยู่ที่ 5.6 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 4.7% อย่างไรก็ตามการใช้ในภาคขนส่งลดลงมาอยู่ที่ 1.8 ล้านกก./วัน หรือลดลง 12.6%
การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.3 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 18.6% โดยเป็นผลต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบกับจำนวนสถานีบริการและรถ NGV ที่ลดลง
การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเดือน ม.ค.-มิ.ย.64 เฉลี่ยอยู่ที่ 917,634 บาร์เรล/วัน ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.7% โดยการนำเข้าน้ำมันดิบลดลงมาอยู่ที่ 880,203 บาร์เรล/วัน หรือลดลง 1.5% อย่างไรก็ตาม มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 52,733 ล้านบาท/เดือน หรือเพิ่มขึ้น 31.0% เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่สูงขึ้น สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 37,431 บาร์เรล/วัน หรือเพิ่มขึ้น 21.8% คิดเป็นมูลค่าการนำเข้า 2,239 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้น 57.0%
การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเดือนม.ค.-มิ.ย.64 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ไบโอดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกลดลงมาอยู่ที่ 182,487 บาร์เรล/วัน หรือลดลง 10.4% คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 11,641 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้น 30.9%