น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายมุ่งส่งเสริมและช่วยเหลือให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยในช่วงปั้นปลายชีวิต อีกทั้งนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้การเคหะแห่งชาติ (กคช.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปดำเนินการพัฒนาทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของโครงการบ้านเอื้ออาทรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อลดภาระหนี้และเพิ่มรายได้นั้น
วันนี้ กคช. ได้เสนอโครงการต้นแบบ "บ้านเคหะสุขเกษม" โดยเป็นการปรับปรุงทรัพย์สินโครงการบ้านเอื้ออาทรบางส่วนมาดำเนินการให้เป็นห้องเช่าราคาถูกแก่ผู้สูงอายุ ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ และให้ดำเนินการดังนี้
1. ปรับลดหน่วยโครงการบ้านเอื้ออาทรจังหวัดสมุทรปราการ (เทพารักษ์ 4) จำหน่วย 45 หน่วย
2. ปรับปรุงพัฒนาบ้านเอื้ออาทร 45 หน่วยดังกล่าว เป็นอาคารเช่าสำหรับผู้สูงอายุ ข้าราชการ และพนักงานของรัฐที่เกษียณอายุ เป็นโครงการต้นแบบชื่อ "โครงการบ้านเคหะสุขเกษม"
3. เห็นชอบเพิ่มกรอบงบลงทุนประจำปีงบประมาณ 2564 ของการเคหะแห่งชาติ จำนวน 11 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงอาคารต้นแบบ 1 อาคาร
น.ส.รัชดา กล่าวด้วยว่า ครม. ยังได้มีมติให้ กคช. เร่งรายงานผลการดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทร ตามมติครม.เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.52 ที่ได้ปรับลดจำนวนหน่วยเหลือ 2.8 แสนหน่วย จากที่เคยได้รับการเห็นชอบจาก ครม.ช่วงปี 2546-2548 จำนวน 6 แสนกว่าหน่วย ซึ่งจนถึงปัจจุบัน มีจำนวนที่ยังขายไม่ได้ 5,848 หน่วย อยู่ในพื้นที่โครงการบ้านเอื้ออาทร (เทพารักษ์ 4) จำนวน 223 หน่วย
ขณะเดียวกันให้รายงานผลการดำเนินการโครงการต้นแบบที่ริเริ่มขึ้นนี้ และเร่งจัดทำรายงานการวิเคราะห์ความเหมาะสมของโครงการบ้านเคหะสุขเกษม ซึ่งในแผนจะเป็นอาคารสูง 5 ชั้น 4 อาคาร ทุกอาคารติดลิฟท์ แผนการดำเนินงาน 3 ปี (2564-2566) แบ่งเป็น 4 ระยะ รวม 4,089 หน่วย ขนาดพื้นที่ 33 ตารางเมตร และ 27 ตารางเมตร ต่อหน่วยที่พักอาศัย มีศูนย์ดูแลสุขภาพ พื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่จัดกิจกรรม คลีนิกอายุรกรรม ศูนย์สุขภาพ เป็นต้น โดยจะคิดอัตราค่าเช่าประมาณ 2,500 - 3,000 บาท
ทั้งนี้ เมื่อกคช. เสนอรายงานต่อ ครม.ในโอกาสหน้า จะได้มีการพิจารณาเรื่องการนำทรัพย์สินโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ขายไม่ได้หรือสร้างไม่เสร็จ มาปรับปรุงและพัฒนาเป็นบ้านเคหะสุขเกษมเพื่อผู้สูงอายุต่อไป ตามความเหมาะสมของพื้นที่และความต้องการของประชาชน