ผลสำรวจโอกาสทางการลงทุนทั่วโลกระหว่างปี 2550 - 2552 ซึ่งจัดทำโดยองค์การที่ประชุมว่าด้วยการค้าและการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือ อังค์ถัด (UNCTAD) บ่งชี้ว่า เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) ซึ่งหมุนเวียนทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกภาคส่วนใน 3 ปีข้างหน้า ด้วยแรงหนุนจากการเติบโตของเศรษฐกิจโลก แม้จะมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงินทั่วโลก รวมถึงการกีดกันทางการค้าในบางประเทศก็ตาม
ผลสำรวจดังกล่าวได้มาจากการทำแบบสอบถามของบริษัทข้ามชาติ 1,500 แห่ง ซึ่งมีผู้ให้ความร่วมมือในการทำแบบสอบถามรวม 191 ราย โดยกว่า 2 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามวางแผนที่จะขยายเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติทุกปี ตั้งแต่ปี 2550 - 2552
ผลการสำรวจระบุว่า การเข้าถึงตลาดขนาดใหญ่ที่กำลังเติบโตเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ ตามมาด้วยการเข้าถึงแหล่งการผลิต โดนเฉพาะแรงงานที่มีทักษะ รวมถึงการเข้าถึงแรงงานค่าแรงต่ำด้วย
เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกยังเป็นเป้าหมายหลักที่ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ โดยเฉพาะจีนและอินเดีย โดยมีเวียดนามเป็นตลาดใหม่ในภูมิภาค
นอกจากนั้นแล้ว ยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือก็ยังดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติได้มากเช่นกัน ในขณะที่เอเชียตะวันตก แอฟริกาเหนือ และ ประเทศแอฟริกาใต้ทะเลทรายซาฮาร่าเป็นเป้าหมายที่บริษัทต่างๆให้ความสนใจน้อยที่สุด สำนักข่าวซินหัวรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--