นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ได้เตรียมวงเงิน 8,000 ล้านบาท จัดทำโครงการ "My Hero : บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข" เพื่อส่งกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข ที่เสียสละทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิดมาตลอดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 63 โดยลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 1.00% ต่อปี จากทุกอัตราดอกเบี้ยที่บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขใช้อยู่ในปัจจุบัน เป็นระยะเวลานาน 4 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน - 31 ธันวาคม 2564
ส่งผลทำให้ภาระค่าใช้จ่ายในด้านที่อยู่อาศัย หรือเงินงวดที่ต้องชำระลดลงทันที อาทิ กรณีวงเงินกู้ 3 ล้านบาท ผ่อน 40 ปี หากอัตราดอกเบี้ยเดิมเท่ากับ MRR - 2% ต่อปี (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. เท่ากับ 6.150% ต่อปี) เงินงวดจะอยู่ที่ 14,800 บาท/เดือน เมื่อลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 1.00% ตามโครงการ เงินงวดจะลดลงเหลือเพียง 7,600 บาท/เดือนเท่านั้น หรือลดลงมากกว่า 50% ของเงินงวดเดิม โดยเงินงวดใหม่ที่ลูกค้าชำระเข้ามาจะตัดชำระทั้งเงินต้นและตัดชำระดอกเบี้ย หรือหากชำระเกินกว่าเงินงวดใหม่ที่ธนาคารกำหนด ส่วนที่เกินธนาคารจะนำไปตัดเงินต้นให้กับลูกค้าอีกด้วย
"เพื่อเป็นการขอบคุณ และให้กำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นผู้ที่เสียสละทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบัน รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์ฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันความสูญเสียให้กับประชาชน" นายฉัตรชัยกล่าว
สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการต้องเป็นลูกค้าปัจจุบันของ ธอส. ที่ประกอบอาชีพแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นบุคลากรด่านหน้าในการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์ฉีดวัคซีน และมีสถานะบัญชีปกติ ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการผ่านออนไลน์เพื่อลดความเสี่ยงจากโควิด-19 ได้ทาง Mobile Application : GHB ALL , GHB Buddy บน Line Application และเว็บไซต์ธนาคารอาคารสงเคราะห์ www.ghbank.co.th ระหว่างวันที่ 9 - 29 สิงหาคม 2564 พร้อมแนบหลักฐาน/เอกสารเพื่อแสดงว่าปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์ฉีดวัคซีน เช่น บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ หนังสือรับรองการปฏิบัติงานจากหน่วยงาน
ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 4 เดือน ในการรับความช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายตามโครงการแล้ว ลูกค้าจะกลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามโครงการเดิมที่เคยเลือกใช้ก่อนเข้าร่วมโครงการโดยไม่ถือว่ามีดอกเบี้ยค้างชำระกับธนาคารแต่อย่างใด