นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า จากการร่วมประชุมหารือระหว่างสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT กับสายการบินในประเทศ 7 สายเช้านี้มีข้อสรุปว่า กพท.รับจะเป็นผู้ยื่นขอศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เพื่อผ่อนปรนชั่วคราวให้ทำการบินในประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ รวมทั้งให้เพิ่มความจุผู้โดยสารภายในเครื่องบินเป็น 70% ต่อลำ จากปัจจุบันกำหนดไว้ที่ 50% ต่อลำ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าโดยสารที่ได้ปรับขึ้นไปราว 3 เท่าจากปกติ
อนึ่ง กพท.ได้ประกาศกำหนดให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศยานในเส้นทางการบินภายในประเทศ ห้ามปฏิบัติการบินรับส่งผู้โดยสารเข้าหรือออกพื้นที่ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) ในระหว่างสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดสูงของโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.64 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุดหรือมีประกาศอื่น
นอกจากนี้ กพท.จะหารือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ว่าจะทำอย่างไรให้สามารถรับนักท่องเที่ยวจากภูเก็ตบินตรงไปยังจังหวัดต่างๆ ได้ ไม่ใช่มาลงเพียงสนามบินอู่ตะเภา รวมทั้งยังได้มีการพิจารณาให้สายการบินสร้างตลาด short hual ที่บินในระยะไม่เกิน 6 ชั่วโมง จากปัจจุบันมาจาก long hual ที่มาจากฝั่งยุโรป เสียส่วนใหญ่
ทั้งนี้ ให้สายการบินเตรียมความพร้อมตามแผนเปิดเมืองที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวโดยไม่กักตัว ขยายจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เช่น จ.กระบี่ (เกาะพีพี,เกาะไหง,เกาะไร่เลย์) จ.พังงา (เขาหลัก, ยาวน้อย,ยาวใหญ่), จ.เชียงใหม่ (อำเภอเมือง, แม่ริม, แม่แตง,ดอยเต่า) พัทยา (อำเภอบางละมุง, สัตหีบ) ,ชะอำ หัวหิน , กรุงเทพ ,จ.บุรีรัมย์ (สนามช้างอารีน่า) ซึ่งจะทำให้สายการบินสามารถรับนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น
ที่ประชุมยังแจ้งว่า ภาครัฐกำลังพิจารณา Platform ที่เป็น Travel Pass ซึ่งจะมีการบันทึกข้อมูลผู้เดินทางที่ฉีดวัคซีนแล้ว