เหตุการณ์ไฟป่าทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาได้สร้างความเสียหายไปแล้วกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า มูลค่าความเสียหายทั้งหมดอาจสูงกว่านี้เมื่อนับรวมค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูพื้นที่และการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจจะเฟื่องฟูหลังการฟื้นตัว
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นหายนะของมนุษย์ มิใช่หายนะทางเศรษฐกิจ" สตีเฟน เลวี นักเศรษฐศาสตร์ระดับสูงจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจแคลิฟอร์เนีย "
บ้านเรือนราว 1,500 หลัง และพื้นที่กว่า 410,000 เอเคอร์ ใน 7 เขตของแคลิฟอร์เนียใต้ ถูกไฟป่าเผาไหม้ลุกลามไปทั่ว เนื่องจากลมที่พัดโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง
รอน เลน ผู้อำนวยการหน่วยฉุกเฉินในเขตซานดิเอโกซึ่งได้รับความเสียหายมากที่สุดกล่าวว่า ความเสียหายในพื้นที่มีมูลค่าถึง 1 พันล้านดอลลาร์แล้ว นอกจากนั้นยังมีบ้านเรือนได้รับความเสียหายอีกกว่า 1,200 หลัง
เควิน โคลวเดน นักเศรษฐศาสตร์จาก Milken Institute กล่าวว่า มูลค่าความเสียหายในแคลิฟอร์เนียจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากพายุฝนในช่วงฤดูหนาวอาจทำให้เกิดโคลนถล่มจากไหล่เขาลงสู่พื้นที่อยู่อาศัยของประชาชนได้
งบประมาณในการฟื้นฟูพื้นที่ส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้ในการซ่อมแซมสายไฟฟ้าและถนนหนทาง รวมถึง Interstate 15 ซึ่งเป็นทางหลวงสายหลักซึ่งเชื่อมระหว่างแคลิฟอร์เนียใต้และลาสเวกัสด้วย
นอกจากนั้น พื้นที่ทำการเกษตรและสถานที่ท่องเที่ยวในซานดิเอโกก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักเช่นกัน
เจอร์รี่ นิกเคิลเบิร์ก นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า การประเมินมูลค่าความเสียหายยังคงดำเนินต่อไปและยังไม่สามารถสรุปยอดที่แท้จริงได้ในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม "เพลิงไหม้เกิดขึ้นในพื้นที่ห่างไกลจากตัวเมืองและเขตที่อยู่อาศัย" นายนิกเคิลเบิร์กกล่าว "ดังนั้น เหตุการณ์ครั้งนี้จึงส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อการเติบโตและสภาพเศรษฐกิจของภูมิภาคในระยะกลางและระยะยาว" สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--