ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: วิตกปัญหาสินเชื่อ ถ่วงดอลล์อ่อนเทียบยูโร,เยน

ข่าวต่างประเทศ Tuesday October 16, 2007 07:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอันเนื่องมาจากความวิตกเกี่ยวปัญหาหนี้เสียและราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะ 117.21 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 117.56 เยนต่อดอลลาร์ และร่วงลงแตะระดับ 97.73 เซนต์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 97.36 เซนต์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.4200 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.4176 ดอลลาร์ต่อยูโร และค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 2.0424 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 2.0343 ดอลลาร์ต่อปอนด์
นายเดวิด โซลิน นักวิเคราะห์จากบริษัทฟอเรนจ์ เอ็กซ์เชนจ์ อนาไลติก กล่าวว่า "ดอลลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ หลังจากดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาสินเชื่อและหนี้เสีย"
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหนี้เสียและปัญหาสินเชื่อเกิดขึ้นหลังจากธนาคารซิตี้กรุ๊ป, แบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ประกาศร่วมจัดตั้งกองทุนเพื่อกระตุ้นตลาดตราสารหนี้และสกัดกั้นกองทุนที่เข้ามาลงทุนในพันธบัตรที่เกี่ยวข้องกับการจำนองประเภทซับไพรม์และตราสารหนี้ประเภทอื่นๆ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.3% เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น 1.2% ขณะที่ยอดขายน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2%
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งสะอนให้เห็นว่าตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวสหรัฐยังคงสดใส โดยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมและเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโต
อย่างไรก็ตาม แม้ยอดค้าปลีกจะปรับตัวสูงขึ้นในเดือนก.ย. แต่นักวิเคราะห์กังวลว่าตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคอาจจะชะลอตัวลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคมีแนวโน้มถดถอยลง อันเป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อและตลาดอสังหาริมทรัพย์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ