ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบยูโร,เยน ขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐ

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางยุโรปตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม ก็เป็นอีกปัจจัยที่หนุนค่าเงินดอลลาร์ให้แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.4047 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4142 ดอลลาร์ต่อยูโร
          ค่าเงินปอนด์ร่วงลง 2.0350 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 2.0418 ดอลลาร์ต่อปอนด์ ขณะที่ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 117.36 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 116.92 เยนต่อดอลลาร์ และดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1.1861 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.1778 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์
          ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานใหม่นอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 110,000 ตำแหน่ง
          กระทรวงได้ปรับทบทวนตัวเลขตำแหน่งงานเดือนส.ค.ให้สูงขึ้น โดยระบุว่าตำแหน่งงานในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 89,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เคยรายงานว่าตำแหน่งงานในเดือนส.ค.ลดลง  4,000 ตำแหน่ง โดยการปรับทบทวนในครั้งนี้ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย
          ส่วนอีกปัจจัยที่ช่วยหนุค่าเงินดอลลาร์คือข่าวที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมที่ 4.00% ซึ่งเป็นการตรึงดอกเบี้ยติดต่อกัน 4 เดือน และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้       
          ปีเตอร์ เวนเดอร์ ฮูท นักวิเคราะห์จากไอเอ็นจี กล่าวว่า "ตราบใดที่ตลาดเงินยังไม่นิ่ง ก็คงเป็นเรื่องยากที่อีซีบีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้"
          นายโรดริโก ราโต ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สว่า ภาวะสินเชื่อตึงตัวที่เกิดขึ้นทั่วโลกถือเป็นวิกฤตการณ์ที่รุนแรงและยังไม่สิ้นสุดลงในขณะนี้ และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่องบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลในหลายประเทศ
          นอกจากนี้ นายราโตกล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่าต่ำเกินไปหลังจากเกิดวิกฤตการณ์ในตลาดซับไพรม์ของสหรัฐและหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.50%