นายสุเทพ สุวรรณรัตน์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ กล่าวว่า ปัจจุบันผลผลิตไข่ไก่ที่มีอยู่ในระบบมีปริมาณตามปกติที่ 41-42 ล้านฟองต่อวัน และจากมาตรการรัฐที่ให้ยืดอายุแม่ไก่ยืนกรงจะทำให้ปริมาณไข่ไก่เพิ่มขึ้นอีก 3 ล้านฟองต่อวัน ทำให้ภายในเดือน ส.ค.จะมีปริมาณไข่ไก่รวมเป็น 44-45 ล้านฟองต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการบริโภคในประเทศ โดยราคาขายหน้าฟาร์มยังอยู่ในระดับเดิมตามที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือไว้ แต่เนื่องจากติดปัญหาเรื่องการขนส่งและความต้องการที่เพิ่มขึ้นทำให้ราคาไข่ไก่ในหลายพื้นปรับสูงขึ้น
"ในพื้นที่สีแดงเข้มถูกล็อกดาวน์ การขนส่งผลผลิตไข่ไก่ให้กับห้างต่างๆ ทำได้ไม่สะดวกนัก ส่งได้เพียงวันละหนึ่งเที่ยว หากมีคนซื้อมากกว่าปกติก็จะทำให้เติมไม่ทัน แต่ยืนยันว่าผลผลิตไข่ไก่ที่มีอยู่ขณะนี้เพียงพอกับความต้องการบริโภคในประเทศอย่างแน่นอน ความต้องการที่ดูเหมือนว่ามีเพิ่มขึ้นช่วงนี้น่าจะเป็นเพราะผู้บริโภคซื้อตุนไว้ เพื่อลดความถี่ในการออกนอกบ้าน จากปกติซื้อที่ 10 ฟองก็เพิ่มเป็น 90-120 ฟอง" นายสุเทพ กล่าว
นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ กล่าวว่า ปัญหาราคาไข่ไก่ที่สูงขึ้นช่วงนี้อยู่ที่พ่อค้าคนกลางเป็นสำคัญ ซึ่งทางสมาคมฯ ได้ย้ำให้เกษตรกรระมัดระวังไม่ขายผลผลิตให้คนแปลกหน้า แต่จะขายให้เฉพาะลูกค้าประจำ สำหรับต้นทุนการเลี้ยงขณะนี้เฉลี่ยพุ่งขึ้นมาใกล้เคียงเกือบเท่าราคาที่ขายหน้าฟาร์มแล้ว จากช่วงไตรมาสที่สองต้นทุนอยู่ที่ฟองละ 2.76 บาท และมีแนวโน้มต้นทุนสูงขึ้นอีกจากวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง ทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และกากถั่วเหลือง ทำให้ตอนนี้ผู้เลี้ยงแทบไม่มีกำไรเลย
ด้านนายสุวัฒน์ แพร่งสุวรรณ์ ประธานชมรมไข่ไก่ภาคอีสาน กล่าวว่า สาเหตุที่ราคาไข่ไก่ดีดตัวขึ้นมาจากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผลผลิตส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้สำหรับผู้กักตัวที่โรงพยาบาลสนามต่างๆ ซึ่งเป็นผู้ป่วยจาก กทม.ที่กลับมารักษาตัวที่ภูมิลำเนาของตนเองมากขึ้น เพราะไข่ไก่เป็นสินค้าที่นำมาประกอบอาหารได้ง่ายและเก็บรักษาไม่ยาก ขณะที่ราคาขายหน้าฟาร์มอยู่ในระดับที่กรมการค้าภายในขอความร่วมมือ โดยปกติไข่ไก่ในภาคอีสานส่วนใหญ่จะเป็นผลผลิตส่วนเกินของภาคอื่น ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณที่ลดลงบ้างจากช่วงปกติ จากที่ภาคอื่นๆ มีความต้องการเพิ่มขึ้นดังกล่าว
ขณะที่นายอุ่นเรือน ต้นสัก ประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน จำกัด กล่าวว่า ปริมาณไข่ไก่ในพื้นที่ทางภาคเหนือมีเพียงพอกับความต้องการบริโภค ไม่มีปัญหาขาดแคลน และจำหน่ายตามราคาที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด พร้อมขอให้ภาครัฐช่วยดูแลให้ราคาไข่ไก่มีเสถียรภาพ รวมทั้งวัตถุดิบอาหารสัตว์ ทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และกากถั่วเหลืองให้อยู่ในระดับที่เกษตรกรผู้เลี้ยงพอจะอยู่ได้