ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ตลาดปริวรรตเงินตราฮ่องกงในช่วงเที่ยงวันนี้ (2 ต.ค.) หลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรปแสดงความกังวลต่อสถานการณ์เงินยูโรที่แข็งค่าขึ้น
นายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และนายฌอง-คล้อด จังเกอร์ นายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์กต่างแสดงความหวั่นวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งทำให้สินค้าจากยุโรปที่ส่งออกไปยังสหรัฐมีราคาสูงขึ้น
"ทางการยุโรปไม่ต้องการที่จะให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงรวดเร็วนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร" มาร์ก วาน รองประธานฝ่ายนโยบายการคลังของธนาคารดีเอสบีในฮ่องกงกล่าว นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เงินยูโรอ่อนค่าลง ซึ่งพวกเขาต้องการที่จะชะลอความเคลื่อนไหวของเงินยูโรไม่ให้แข็งค่าขึ้นมากนัก
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.4217 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.4236 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้าวันนี้ โดยเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.4283 ดอลลาร์ต่อยูโรเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 115.42 เยนต่อดอลลาร์ ลดลงจากระดับ 115.74 เยนต่อดอลลาร์ในเช้านี้ และจาก 115.80 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ยอดส่งออกสินค้าของยุโรปไปยังสหรัฐที่ซบเซาอาจส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจในเขตยูโรโซนชะลอตัวลง และภาวะเช่นนี้อาจทำให้เจ้าหน้าที่กำกับนโยบายของธนาคารกลางยุโรปปรับลดอัตราดอกเบี้ยในประเทศเขตทวีปยุโรป ซึ่งทำให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินยูโรไม่เป็นที่ดึงดูดใจของนักลงทุน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--