นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดกฏหมายกรณีขายยาฟ้าทะลายโจร และชุดตรวจโควิด-19 ด้วยตัวเอง (ATK) แพงเกินเกินควร ซึ่งเข้าข่ายการค้ากำไรเกินควรว่า สำหรับกรณีฟ้าทะลายโจร พบผู้ที่จำหน่ายค้ากำไรเกินควร 9 ราย เพิ่มเติมจากวันที่ 9 ส.ค. ซึ่งได้แถลงไปแล้วที่พบ 10 ราย และสำหรับ ATK พบพฤติกรรมค้ากำไรเกินควรอีก 1 ราย รวมเป็น 10 ราย สรุปถึงวันนี้รวมแล้ว 22 ราย
สำหรับกรณียาฟ้าทะลายโจร พบการกระทำผิดค้ากำไรเกินควร 9 ราย โดยขายผ่าน Shopee 2 ราย Lazada 7 ราย โดยนำยี่ห้ออภัยภูเบศร ขนาด 60 เม็ด ราคาปกติ 80 บาท แต่นำไปขายในราคา 325-499 บาท สูงกว่าราคาปกติถึง 306-524% เข้าข่ายค้ากำไรเกินควร ส่วนอีก 2 ราย เป็นยี่ห้อไฟโตแคร์ ขนาด 60 เม็ด ราคาปกติ 75 บาท แต่นำไปขายในราคา 369-399 ซึ่งแพงกว่าราคาปกติ 392-432% ถือว่าค้ากำไรเกินควรเช่นเดียวกัน
ขณะที่กรณีค้ากำไรเกินควรชุดตรวจ ATK พบอีก 1 ราย ที่ร้านขายยา ย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งราคาที่แจ้งไว้คือ 300 บาท แต่ขายในราคา 380 บาท สูงกว่าราคาที่แจ้งไว้ 27% ก็ถือว่าเข้าข่ายค้ากำไรเกินควร ซึ่งกรมการค้าภายใน และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) จะร่วมกันไปแจ้งความผู้ขาย และแจ้งความดำเนินคดีกับผู้มีอำนาจตามกฏหมายของ Shopee และ Lazada ในประเทศไทย ข้อหากระทำผิดมาตรา 29 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
"หากประชาชน พบกรณีที่คิดว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดฐานค้ากำไรเกินควร ให้แจ้งได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ หรือแจ้งสายด่วน 1569 ซึ่งเป็นสายด่วนกลางของกระทรวงพาณิชย์ เจ้าหน้าที่จะไปตรวจสอบให้" นายจุรินทร์ กล่าว
ส่วนกรณีการแก้ไขปัญหาลำไยนั้น สัปดาห์นี้ได้รับแจ้งจากทูตพาณิชย์จีนว่าจะร่วมกับทูตเกษตรในการนัดหมายเจรจากับทางฝ่ายจีน โดยกรมวิชาการเกษตร จะเป็นเจ้าของเรื่องโดยตรงในการกำหนดมาตรการแนวทางการดูแลเรื่องสุขอนามัยของลำไยไทยที่ส่งออกไปยังจีนต่อไปด้วย
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายจุรินทร์ ได้มอบหมาย รมช.พาณิชย์ และผู้ช่วย รมว.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหารวมทั้งได้มอบหมายปลัดกระทรวงพาณิชย์ และอธิบดีกรมการค้าภายใน วางแผนตั้งแต่ต้นฤดูกาลสำหรับการบริโภคภายในเสริมอีกด้วย