พาณิชย์เพิ่มสัดส่วนส่งออกไปตลาดใหม่เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการส่งออก

          นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า ในปีหน้าได้กำหนดแผนงานรับมือกับปัจจัยเสี่ยงในการส่งออก ทั้งราคาน้ำมันที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ค่าเงินบาทที่ยังผันผวน และตลาดส่งออกหลักที่ขยายตัวลดลงจากเศรษฐกิจโลก ทั้งสหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยจะมุ่งเน้นไปยังตลาดใหม่มากขึ้น และตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการส่งออกระหว่างตลาดหลักกับตลาดใหม่เป็น 50 ต่อ 50 จากปัจจุบัน 60 ต่อ 40 โดยจะมีกิจกรรมกระตุ้นการขยายตัวของตลาดใหม่อย่างต่อเนื่องประมาณ 283 กิจกรรม 
          "ตลาดใหม่ขยายตัวมาก เป็นผลมาจากนโยบายที่สนับสนุนการส่งออกไปยังตลาดใหม่ โดยในช่วง 9 เดือนแรก การส่งออกไปตลาดใหม่ขยายตัวแล้ว 30% ซึ่งหากดูเป็นรายประเทศอย่างจีน พบว่าเติบโตมากถึง 27% และมีสัดส่วนการส่งออก 9.5% ของการส่งออกทั้งหมดของไทย อนาคตจีนจะเป็นตลาดที่สำคัญมากของไทย รองจากสหรัฐฯ และญี่ปุ่น" นายราเชนทร์ กล่าว
          สำหรับกิจกรรมผลักดันการส่งออกนั้นจะเน้นสนับสนุนให้ธุรกิจของไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น เพราะราคาขายสินค้าแบบเอฟโอบีหรือส่งที่ท่าเรือกรุงเทพ กับราคาขายปลีกที่ผู้นำเข้าซื้อจากไทยไปนั้นต่างกันถึง 5 เท่า หากไปลงทุนตั้งโรงงานผลิต หรือหาผู้ร่วมทุนในประเทศเป้าหมายจะทำให้ได้กำไรมากขึ้น ซึ่งล่าสุดมีธุรกิจที่ไปทำตลาดต่างประเทศแล้ว 250 รายในทุกๆ กลุ่มสินค้า
          นอกจากนี้จะพัฒนาย่านการค้าสำคัญของไทยให้เป็นแหล่งสำหรับส่งออก เช่น แหล่งอัญมณีย่านสีลม มเหสักข์ และสุรวงศ์ แหล่งแฟชั่นย่านประตูน้ำ โบ๊เบ๊ และใบหยก และแหล่งอะไหล่ยานยนต์ ย่านวรจักร ขณะเดียวกันจะผลักดันเรื่องระบบการขนส่ง เพื่อช่วยลดต้นทุนการส่งออก ลดขั้นตอนเอกสารของภาครัฐที่เป็อุปสรรค พร้อมทั้งพัฒนาผู้ประกอบการที่ให้บริการด้านการขนส่งให้บริหารจัดการได้ดีขึ้น 
          นายราเชนทร์ กล่าวต่อว่า ปีหน้ายังคงหวังให้การส่งออกเป็นตัวผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย เพราะมีสัดส่วนสูงถึง 65% ของจีดีพี แต่ขณะเดียวกันรัฐบาลชุดนี้ได้พยายามวางรากฐานเพื่อผลักดันการบริโภคในประเทศให้ขยายตัวมากขึ้นแล้ว ทั้งโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า การลงทุนภาครัฐด้านอื่นๆ
          "นักวิชาการเริ่มพูดกันมากแล้วว่าไทยจะพึ่งพาการส่งออกเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะหากส่งออกชะลอตัวจะฉุดเศรษฐกิจให้ชะลอตัวตามไปด้วยจึงต้องผลักดันการบริโภคในประเทศด้วย แต่ผมมีหน้าที่ผลักดันการส่งออกก็ต้องทำตามหน้าที่" นายราเชนทร์ กล่าว