(เพิ่มเติม) พาณิชย์ เผย CPI ก.ย.50 เพิ่มขึ้น 2.1% ส่วน Core CPI เพิ่มขึ้น 0.8%

          นางนทีทิพย์ ทองเขาอ่อน ผู้อำนวยการ สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)ในเดือน ก.ย.50 อยู่ที่ระดับ 117.4 เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือน ส.ค.50 และเพิ่มขึ้น 2.1% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย.49
          เงินเฟ้อเดือน ก.ย.50 เพิ่มขึ้นในอัตราค่อนข้างสูง หลังจากลดลงค่อนข้างมากในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยหลังมาจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาข้าวสารเหนียว ผลไม้สด ไข่ ผลิตภัณฑ์นม และเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ส่งผลให้ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวสูงขึ้น 0.5% ขณะที่ภาวะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่ ส่งผลให้ดัชนีหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มปรับตัวสูงขึ้น 0.6%
          หากเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ดัชนีที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการสูงขึ้นของดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม 3.8% และดัชนีหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มปรับตัวสูงขึ้น 1.1% 
          ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(Core CPI) ไม่รวมหมวดสินค้าอาหารสดและพลังงานในเดือน ก.ย.50 อยู่ที่ระดับ 105.8 เพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือน ส.ค.50 และเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย.49
          ขณะที่ CPI เฉลี่ย 9 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ก.ย.)เพิ่มขึ้น 2.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วน Core CPI เพิ่มขึ้น 1.0%
          ด้าน นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ คาดว่า กระทรวงพาณิชย์จะสามารถดูแลระดับเงินเฟ้อทั้งปีให้อยู่ภายในกรอบไม่เกิน 2.5% แม้ว่าราคาน้ำมันในขณะนี้จะปรับตัวสูงขึ้นมามากก็ตาม เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกหลายตัวที่อยู่ภายในกรอบที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ เช่น อัตราแลกเปลี่ยนที่ 34-35 บาท/ดอลลาร์, อัตราดอกเบี้ยที่ 3.5-4.0%, ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์ไม่เกิน 27 บาท/ลิตร
          นอกจากนี้ยังได้รับการยืนยันจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ว่าจะยังไม่มีการปรับค่าไฟฟ้าผันแปร(เอฟที)ในงวดต่อไป(ต.ค.-ธ.ค.50)
          ล่าสุด กรมการค้าภายในได้อนุมัติให้ผู้ประกอบการปรับขึ้นราคาสินค้าอีก 3 รายการ ได้แก่ นมพร้อมดื่ม น้ำปลา และกาแฟสำเร็จรูป เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการได้เสนอขอปรับราคามาตั้งแต่ปี 47