ธปท.เผยเศรษฐกิจเดือนก.ย.ขยายตัวได้ต่อเนื่องแม้ราคาน้ำมันเร่งตัวขึ้น

          ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ระบุว่า ราคาน้ำมันที่เร่งตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ยังไม่มีผลกระทบกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมมากนัก โดยในช่วงเดือนกันยายน 2550 เศรษฐกิจยังขยายตัวต่อเนื่องใกล้เคียงกับเดือนก่อน 
          นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ สายนโยบายการเงิน ธปท.กล่าวว่า การบริโภคและการลงทุนยังเติบโตได้ แม้ว่าราคาน้ำมันเร่งตัวขึ้น เนื่องจากการเร่งตัวของราคาน้ำมันเพิ่งมาเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีและเป็นการทยอยปรับขึ้น จึงทำให้ผลกระทบต่อเศรษฐกิจยังไม่มากนัก
          ตามสมมติฐานของธปท.คาดว่าการเร่งตัวของราคาน้ำมันทุก 1% จะทำให้ผลผลิตมวลรวมในประเทศ(จีดีพี)ลดลง 0.04% ซึ่งในช่วง 1 ปี ราคาน้ำมันเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% แต่ก็ยังถือว่ายังอยู่ในสมมติฐานของธปท. โดยปีก่อนราคาน้ำมันเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีจนถึง 26 ต.ค. 49 น้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยที่ 62.48 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ระยะเดียวกันปีนี้อยู่ที่ 64.76 เหรียญ/บาร์เรล ดังนั้น เศรษฐกิจจึงเร่งตัวขึ้นแค่ 3.8%
          อย่างไรก็ตาม หากราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวขึ้นไปสูงกว่า 76 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ก็จะมีการปรับประมาณการใหม่ 
          "ราคาน้ำมันเพิ่งมาเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังในช่วงเดือนแรกของไตรมาส 4 (ต.ค.) น้ำมับดิบดูไบอยู่ที่ 76 เหรียญ/บาร์เรล ยังไม่สูงกว่ากรณีเลวร้ายของแบงก์ชาติ" นางอมรา กล่าว 
          ขณะที่ค่าเงินบาทที่แข็งค่า ช่วยให้ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับขึ้นไม่มาก ซึ่งเงินบาทที่แข็งทุก 1 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ช่วยให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศลดลง 0.50-0.60 บาท/ลิตร
          ธปท.ระบุว่าในเดือนกันยายน 2550 อุปสงค์ในประเทศอยู่ในแนวโน้มของการฟื้นตัว ขณะที่การส่งออกยังคงขยายตัวในเกณฑ์ดี ส่วนด้านอุปทาน ผลผลิตและราคาพืชผลหลักที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงขยายตัวดีแม้จะชะลอลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนก่อน ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง  
          ทั้งนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่องและเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง และแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะปรับสูงขึ้นบ้าง แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังอยู่ในระดับต่ำ 
          โดยรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ทั้งอุปสงค์ในประเทศที่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้นและการส่งออกที่ยังคงขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี สอดคล้องกับด้านอุปทานที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเร่งตัว ขึ้นจากไตรมาสก่อน เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน  
          อย่างไรก็ดี ผลผลิตภาคเกษตรที่ชะลอตัวลงและราคาที่ค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ทำให้รายได้เกษตรกรชะลอลงบ้าง