แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรมสรรพากรเตรียมจะเสนอกระทรวงการคลัง เพื่อส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบขยายเวลามาตรการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 10% เหลือ 7% ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.64 ออกไปอีก 1-2 ปี เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
ทั้งนี้ คาดว่านายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง จะนำข้อเสนอเรื่องการขยายเวลามาตรการลดการจัดเก็บภาษี VAT ดังกล่าวให้ ครม. พิจารณาภายในเดือนส.ค.นี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนได้วางแผนในการลงทุน และเกิดความมั่นใจเศรษฐกิจมากขึ้น
"สถานการณ์เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการระบาดโควิด-19 ตอนนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีการขึ้นภาษี VAT ดังนั้นกรมสรรพากรจึงเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาการเก็บภาษี VAT ที่อัตรา 7% ออกไป 1 หรือ 2 ปี โดยได้เสนอทางเลือกให้ขยายนานถึง 2 ปีด้วยนั้น เพราะเห็นว่าโควิด-19 ยังกระทบกับเศรษฐกิจอีก 1-2 ปีถึงจะเริ่มฟื้นตัวได้ และที่ผ่านมาการเสนอคง VAT ก็จะมีทั้ง 1 ปี และขอขยายทีเดียว 2 ปีเลย หากเห็นว่าเศรษฐกิจมีปัญหามาก เพื่อให้ประชาชนและผู้ประกอบการมีความมั่นใจ และวางแผนธุรกิจในระยาวได้" แหล่งข่าวกล่าว
พร้อมระบุว่า การคงอัตราภาษี VAT ที่ 7% จะไม่กระทบกับการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในปีงบประมาณ 2564 และ 2565 เนื่องจากการทำงบประมาณในส่วนของการประมาณการเก็บรายได้ มีการประเมินไว้แล้วว่าจะไม่มีการเพิ่มภาษี VAT โดยการขึ้นภาษี VATทุก 1% จะทำให้รัฐบาลเก็บรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 7 หมื่นล้านบาท
"การคงภาษี VAT ที่อัตรา 7% ไม่ได้ขึ้นเป็น 10% ทำให้รัฐบาลเก็บภาษีได้น้อยลง แต่เป็นผลดีกับเศรษฐกิจโดยรวมมากกว่า เพราะในวิกฤตโควิด-19 ที่เศรษฐกิจขยายตัวลดลงมาก ประชาชนและผู้ประกอบการมีรายได้ลดลง แต่รายจ่ายยังเท่าเดิม การขึ้น VATตอนนี้จะเป็นการซ้ำเติมให้ประชาชนและผู้ประกอบการมีภาระมากขึ้น จนทำให้มีปัญหาเศรษฐกิจขยายตัวลดลงเพิ่มมากขึ้นไปอีก" แหล่งข่าว ระบุ