สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐคาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านมือสองจะร่วงลง 10.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งที่เมื่อเดือนก.พ.คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงเพียง 0.6% ในขณะที่ยอดขายบ้านมือหนึ่งคาดว่าจะลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังซบเซา ยอดขายบ้านดิ่งลง ยอดการยึดบ้านพุ่งกระฉูด และปัญหาในตลาดสินเชื่อก็เพิ่มขึ้น
ในรายงานประจำเดือนต.ค. ทางสมาคมคาดการณ์ว่าในปีนี้ยอดขายบ้านมือสองจะอยู่ที่ 5.78 ล้านยูนิต ลดลงจาก 6.48 ล้านยูนิตเมื่อปีก่อน ส่วนเมื่อเดือนที่แล้วทางสมาคมคาดการณ์ว่ายอดขายบ้านมือสองจะลดลง 8.6% จากปีก่อน โดยยอดขายในปีนี้จะลดแตะระดับ 5.63 ล้านยูนิต ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2545
นอกจากนั้นทางสมาคมยังคาดว่าราคากลางของบ้านมือสองจะลดลง 1.3% เหลือ 219,000 ดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้วที่ 1.7%
เมื่อปีที่แล้ว ทางสมาคมคาดว่ายอดขายบ้านมือสองจะเพิ่มเป็น 6.12 ล้านยูนิต ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์เมื่อปีที่แล้ว 2.4%
ยอดขายบ้านเดี่ยวมือสองลดลง 4.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ต่ำสุดในรอบ 5 ปี
ในขณะที่ยอดขายบ้านมือหนึ่งทั่วประเทศคาดว่าจะลดลง 23% เหลือ 805,000 ยูนิต จาก 1.05 ล้านยูนิตเมื่อปีที่แล้ว ถ้าการคาดการณ์ดังกล่าวเป็นจริงจะถือว่าเป็นยอดขายที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งขายได้เพียง 804,000 ยูนิต ส่วนในปีหน้าคาดว่ายอดขายบ้านมือหนึ่งจะอยู่ที่ 752,000 ยูนิต
ทั้งนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงที่สุดในรอบ 16 ปี จากการประเมินของ Standard & Poors/Case-Shiller ซึ่งครอบคลุมราคาบ้านในเมืองใหญ่ของสหรัฐ อันเป็นผลมาจากวิกฤตการณ์ซับไพรม์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--