ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ต.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดระดับใหม่เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลงอีก 0.25% ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นเหนือระดับ 2.08 ดอลลาร์ต่อปอนด์แล้ว
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.4503 ดอลลาร์ต่อยูโร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดระดับใหม่ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4434 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 2.0813 ดอลลาร์ต่อปอนด์ หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 2.0822 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์แคนาดาแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.0571 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 95.35 เซนต์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นแตะระดับ 115.31 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 114.77 เยนต่อดอลลาร์
นายไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ นิวยอร์ก กล่าวว่า "การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดของเฟดเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น แต่กลับตอกย้ำค่าเงินดอลลาร์ให้ทรุดตัวลงไปอีก เพราะการลดดอกเบี้ยทำให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ลดน้อยลงและไม่น่าดึงดูดใจ"
ขณะที่นายอาชราฟ ไลดี นักวิเคราะห์จากบริษัทซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด แม้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ขยายตัวขึ้นในอัตรา 3.9% ต่อปี ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ระดับ 3.8%ต่อปี และตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งขยายตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 4 เดือน ก็ตาม
ค่าเงินยูโรได้รับปัจจัยบวกจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยังไม่สิ้นสุดวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ค่าเงินปอนด์ยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางอังกฤษอาจตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม แทนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามเฟด
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--