น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวว่า กอช. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาช่องทาง ยกระดับการเข้าถึงบริการออมเงินของประชาชนคนไทยมาโดยตลอด และในปีนี้ กอช. ร่วมกับไปรษณีย์ไทย เพิ่มหน่วยบริการแก่สมาชิกผ่านเครือข่ายที่ทำการไปรษณีย์ และเคาน์เตอร์ไปรษณีย์กว่า 1,500 แห่ง ทั่วประเทศ ให้สมาชิกสามารถออมเงินได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และฟรีค่าธรรมเนียมอีกด้วย
สำหรับสมาชิก กอช. ที่ต้องการนำส่งเงินออมสะสม สามารถทำได้โดยแจ้งเลขบัตรประชาชน 13 หลัก หรือนำบัตรประชาชนตัวจริงมาแสดง หรือยื่นบาร์โค้ดในแอปพลิเคชัน กอช. เพื่อทำรายการ โดยสามารถนำส่งเงินออมสะสมตั้งแต่ 50 บาทขึ้นไป สูงสุดไม่เกิน 13,200 บาท/ปี (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ พ.ร.บ. กอช. กำหนด) สมาชิกสามารถดูยอดเงินออมสะสม เงินสมทบที่ได้จากรัฐผ่านแอปพลิเคชัน "กอช." ได้ด้วยตนเอง
ด้านนายดนันท์ สภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวถึงการให้บริการนำส่งเงินสะสมของ กอช.ที่ได้ร่วมกับไปรษณีย์ไทย ในการอำนวยความสะดวกเพิ่มช่องทางออมเงินให้แก่สมาชิก กอช.ว่า ไปรษณีย์ไทยมีเครือข่ายที่ทำการที่ครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศ การจับมือกับ กอช.ในครั้งนี้ จึงถือเป็นการนำเอาจุดแข็งด้านเครือข่ายที่มี มาเป็นทางเลือกเพิ่มเติมในการนำส่งเงินออมของสมาชิก กอช.
รวมทั้งยังเป็นการต่อยอดการให้บริการ Bank@POST รับฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารกว่า 10 ธนาคาร ณ ที่ทำการไปรษณีย์ ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2554 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มประชาชนในพื้นที่ภูมิภาค หรืออยู่ในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งไม่สะดวกในการเดินทางไปทำธุรกรรมที่ธนาคาร ก็สามารถมาฝากเงินที่ไปรษณีย์แทนได้ รวมถึงการนำส่งเงินออมสะสมนี้ก็เช่นกัน
"หวังว่าบริการนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มชาวบ้าน แม่ค้าพ่อค้า หรือกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ ให้สามารถนำส่งเงินออมได้ง่ายขึ้น เพื่อจะได้มีเงินออมเก็บไว้ใช้รายเดือนหลังอายุ 60 ปี เริ่มต้นเพียง 50 บาท และไม่มีค่าธรรมเนียมในการนำส่งเงินอีกด้วย" นายดนันท์ระบุ