ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ข่าวลือจีนลดถือครองดอลลาร์ ทุบดอลล์ดิ่งเทียบยูโร

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร และดิ่งลงหนักสุดในรอบ 26 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์ เนื่องจากข่าวลือที่ว่าจีนจะนำเม็ดเงินในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมูลค่า 1.43 ล้านล้านดอลลาร์ ออกมากระจายความเสี่ยงด้วยการลดถือครองสกุลเงินดอลลาร์และเพิ่มการถือครองสกุลเงินอื่นๆ 
          นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและธนาคารกลางอังกฤษจะตรึงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.4667 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.4554 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.4730 ดอลลาร์ต่อยูโร
          ขณะที่ค่าเงินปอดน์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 2.1047 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับของวันอังคารที่ 2.0868 ดอลลาร์ต่อปอนด์ หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีที่ 2.1071 ดอลลาร์ต่อปอนด์
          นายเจมส์ ฮิวจ์ นักวิเคราะห์จากซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า ในช่วงเช้านั้น ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ประสิทธิภาพการผลิตหรือผลผลิตรายชั่วโมงต่อคนงาน เพิ่มขึ้น 4.9% ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นอัตราที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 4 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3% ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะยังคงขยายตัวโดยไม่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อ
          "แต่ต่อมาดอลลาร์อ่อนตัวลงเนื่องจากข่าวลือที่ว่า จีนจะลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์และหันไปเพิ่มการถือครองสกุลเงินอื่นๆ และจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งจะประชุมวันเดียวกันกับธนาคารกลางอังกฤษ" นายฮิวจ์กล่าว
          อย่างไรก็ตาม นายเจิ้น ซีเว่ย เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนได้ออกมาตอบสนองข่าวลือดังกล่าวว่า "ข่าวดังกล่าวไม่ได้สะท้อนถึงนโยบายและแนวความคิดของเจ้าหน้าที่จีน" ขณะที่นายมาร์ค แชนด์เลอร์ นักวิเคราะห์จากบราวน์ บราเธอร์ส แฮร์รีแมน เชื่อว่า จีนยังไม่มีแผนที่จะนำเม็ดเงินในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศออกมากระจายความเสี่ยงดังที่เป็นข่าว