ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า (6-10 ก.ย.) ไว้ที่ 32.20-33.00 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ กระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ สถานการณ์โควิดและตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ส.ค.ของไทย รวมถึงผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน อัตราการหมุนเวียนของแรงงาน และข้อมูลสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือน ก.ค. ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน ส.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจเดือน ส.ค.ของจีน อาทิ ตัวเลขการส่งออก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต และตัวเลขจีดีพี ไตรมาส 2/64 ของยูโรโซนและญี่ปุ่นด้วย
โดยเงินบาทกลับมาอ่อนค่าในช่วงปลายสัปดาห์ หลังขยับแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ตามแรงหนุนจากสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรและหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับเงินดอลลาร์ยังคงเผชิญแรงกดดัน หลังจากประธานเฟดส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย แม้สถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯที่ดีขึ้นจะทำให้เฟดพร้อมเริ่มลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ผ่าน QE ภายในปีนี้ก็ตาม
อย่างไรก็ดีเงินบาททยอยอ่อนค่ากลับมาในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ เนื่องจากมีแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์ฯ ตามปัจจัยทางเทคนิค และเพื่อปรับโพสิชันก่อนการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ปลายสัปดาห์ โดยในวันศุกร์ (3 ก.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.58 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับระดับ 32.63 บาท/ต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (27 ส.ค.)