นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากกรณีราคาปุ๋ยเคมีปรับสูงขึ้นตามราคาวัตถุดิบแม่ปุ๋ยนำเข้า (ยูเรีย ฟอสเฟต และโพแทสเซียม) ที่ปรับสูงขึ้นทั่วโลกนั้น มีสาเหตุสำคัญมาจากประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตแม่ปุ๋ยรายใหญ่ของโลกได้ชะลอการส่งออก เพื่อเก็บปุ๋ยไว้ใช้ในฤดูหว่านไถที่กำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้ ประกอบกับประเทศอินเดียได้ประมูลซื้อปุ๋ยในปริมาณมากตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ทำให้ปริมาณปุ๋ยในตลาดโลกลดลง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับสูงขึ้นจากปีที่แล้ว ทำให้ค่าระวางเรือในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศปรับสูงขึ้นจากเดิมถึง 2.5 เท่า ส่งผลให้ต้นทุนในเรื่องของการขนส่งสูงขึ้นด้วย
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีมาตรการช่วยเหลือตั้งแต่ปลายปี 2563 โดยเชิญประชุมผู้ผลิต ผู้นำเข้าปุ๋ยเคมีรายใหญ่กว่า 10 ราย และขอความร่วมมือตรึงราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมีออกไประยะหนึ่ง แต่ด้วยราคาวัตถุดิบและต้นทุนค่าขนส่งยังไม่มีทีท่าลดลง กรมการค้าภายใน จึงได้ร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร และสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย ดำเนินโครงการ "พาณิชย์ลดราคาปุ๋ยช่วยเกษตรกร" ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 สิงหาคม 2564
โดยจำหน่ายปุ๋ยเคมีราคาถูกให้เกษตรกร ผ่านสถาบันเกษตรกร อาทิ สหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน และกลุ่มเกษตรกร มีปุ๋ยเคมีที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 84 สูตร ปริมาณรวม 4.5 ล้านกระสอบ สามารถช่วยให้สถาบันเกษตรกรซื้อปุ๋ยเคมีได้ในราคาลดลงจากราคาตลาด และเท่ากับเป็นการตรึงราคาปุ๋ยให้แก่เกษตรกรอีกด้วย เช่น ปุ๋ยสูตร 46-0-0 ราคาหน้าโรงงานปกติ 825 บาท/กระสอบ ราคาในโครงการ 775 บาท/กระสอบ สูตร 16-20-0 ราคาหน้าโรงงานปกติ 725 บาท/กระสอบ ราคาในโครงการ 640 บาท/กระสอบ สูตร 15-15-15 ราคาหน้าโรงงานปกติ 825 บาท/กระสอบ ราคาในโครงการ 730 บาท/กระสอบ สูตร 21-0-0 ราคาหน้าโรงงานปกติ 450 บาท/กระสอบ ราคาในโครงการ 390 บาท/กระสอบ เป็นต้น
ทั้งนี้ สถาบันเกษตรกรสามารถเลือกได้ว่าจะรับมอบปุ๋ยที่หน้าโรงงานตามราคาโครงการ หรือรับมอบจากตัวแทนในพื้นที่ ซึ่งกรมการค้าภายในได้ประสานสมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย ให้จัดทำอัตราค่าขนส่งปุ๋ยเคมีในอัตราพิเศษสำหรับโครงการนี้ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและอำนวยความสะดวกให้แก่สถาบันเกษตรกรอีกด้วย
นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า จากการดำเนินโครงการดังกล่าว ขณะนี้มีการสั่งซื้อปุ๋ยจากสถาบันเกษตรกรแล้ว 1.3 ล้านกระสอบ เหลืออีก 3.2 ล้านกระสอบ โดยที่เกษตรกรยังคงมีความต้องการในการใช้ปุ๋ย ดังนั้นนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ จึงสั่งให้กรมการค้าภายในขยายระยะเวลาโครงการออกไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาปุ๋ยที่ปรับสูงขึ้น
ทั้งนี้ กรมการค้าภายใน จะเผยแพร่รายการและราคาปุ๋ยในโครงการ พร้อมทั้งอัตราค่าขนส่งทางเว็บไซต์ www.dit.go.th และสถาบันเกษตรกรสามารถสั่งซื้อปุ๋ยในโครงการผ่านสหกรณ์อำเภอ สหกรณ์จังหวัด เกษตรอำเภอ และเกษตรจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ