นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า การจะพิจารณาลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มเติมหรือไม่ หลังจากที่เมื่อวานได้ปรับลดลงไป 40 สตางค์/ลิตรแล้วนั้น ต้องขอรอดูสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกก่อน แต่ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของสภาอุตสาหกรรมแก่ประเทศไทย(ส.อ.ท.)ที่ต้องการให้ปรับลดการเก็บเงินฯ ลงคราวละมากๆ เนื่องจากขณะนี้ยังมีปัญหาภาระหนี้สินของกองทุนน้ำมันฯ อยู่อีก 4.3 พันล้านบาท
"อย่าให้ลดอีกเลย ขอให้ดูสถานการณ์ไปก่อน เราอย่าเพิ่งกระโดดทีเดียว ลดไปรอบหนึ่งก่อนแล้วค่อยดูอีกที ปัญหาคือหนี้สินยังมี และเงินก็ไม่ใช่เงินส่วนตัวของใคร เป็นเงินของผู้ใช้น้ำมันนี่แหละ ถ้าไม่จ่ายวันนี้ก็ต้องจ่ายวันหน้าอยู่ดี อย่าพยายามเข้าไปวุ่นวายกับราคาน้ำมันมากเกินไป เอาเป็นประเด็นการเมืองแล้วมันจะแกะไม่ออก"นายปิยสวัสดิ์ กล่าวในรายการวิทยุเช้านี้
รมว.พลังงาน คาดว่า ในเร็วๆ นี้มีโอกาสสูงมากที่ผู้ค้าน้ำมันจะพิจารณาปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศอีกรอบ แต่อย่างไรก็ดี ประชาชนยังมีทางออกด้วยการหันไปใช้แก๊สโซฮอล์แทนและไบโอดีเซล แทนการใช้น้ำมันเบนซินและดีเซล เนื่องจากราคาถูกกว่า
ส่วนกรณีที่กระทรวงพลังงานลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันลง 40 สตางค์/ลิตร ทุกผลิตภัณฑ์ยกเว้นเบนซิน 95 นั้น นายปิยสวัสดิ์ ยอมรับว่า เป็นการบีบให้ผู้ค้าน้ำมันทยอยลดการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 95 และให้หันมาจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์มากขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลที่รณรงค์ไว้ก่อนหน้านี้ เพราะเห็นว่าหากไม่ใช้วิธีดังกล่าวผู้ค้าน้ำมันจะไม่กระตือรือร้นที่จะดำเนินการ
"บริษัทผู้ค้าน้ำมันยังช้ามากในการปรับเปลี่ยนหัวจ่ายไปเป็นแก๊สโซฮอล์ ซึ่งก็ขอความร่วมมือแล้ว แต่การดำเนินการช้ากว่าที่ควร ก็บีบไปเลย แต่ไม่มีใครคิดว่าจะใช้วิธีนี้ เราเคยขอความร่วมมือไปแล้ว ย้ำให้เร่งดำเนินการ ในเมื่อไม่ทำตามที่ขอ ก็ใช้วิธีนี้" รมว.พลังงาน กล่าว
ด้านนายธีรพจน์ วัชราภัย ประธานกรรมการ บริษัทเชลล์ในประเทศไทย กล่าวว่า แม้รัฐบาลจะลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง แต่เชื่อว่าในไม่กี่วันนี้ผู้ค้าน้ำมันจำเป็นต้องปรับเพิ่มราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศขึ้นอีก เนื่องจากล่าสุดราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 2 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งเบนซินและดีเซล
"ตอนนี้ราคาที่สิงคโปร์ยังขึ้นอยู่ ดังนั้นบริษัทน้ำมันทุกบริษัทคงจะดูกันเมื่อวานนี้และวันนี้ด้วยว่าเป็นอย่างไร ถ้ายังขึ้นอยู่ โอกาสที่จะปรับราคา(ขายปลีกในประเทศ) ก็ยังสูง" นายธีรพจน์ ระบุ
ปัจจุบัน ค่าการตลาดของน้ำมันประเภทต่างๆ เป็นดังนี้ ดีเซลและเบนซิน 91 ค่าการตลาดเหลือ 0 ขณะที่เบนซิน 95 ค่าการตลาดติดลบประมาณ 40-50 สตางค์/ลิตร ขณะที่แก๊สโซฮอล์ ค่าการตลาดอยู่ที่ 80-90 สตางค์/ลิตร
นายธีรพจน์ ระบุว่า เหตุที่ผู้ค้าน้ำมันหลายรายยังคงจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 95 นั้นเนื่องจากประชาชนยังมีความต้องการใช้ ในขณะที่อีกส่วนยังไม่มั่นใจกับคุณภาพของแก๊สโซฮอล์ที่จะมีผลต่อเครื่องยนต์
"เบนซิน 95 เรามีไม่ครบทุกสถานี เรามีเพียง 70% เท่านั้น แต่ประชาชนก็ยังไม่เลือกที่จะมาใช้ให้มากขึ้น ทั้งที่ราคาก็ต่างกันถึง3.50 บาท/ลิตร เพราะฉะนั้นอยู่ที่ความเชื่อของประชาชน ดังนั้นการทำธุรกิจเราต้องฟังผู้บริโภค นี่ก็เป็นส่วนสำคัญ" นายธีรพจน์ ระบุ
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--