น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวของทิศทางทองคำสัปดาห์นี้จะปรับลดลงต่อเนื่องจากท้ายสัปดาห์ก่อนที่ปรับลดลงมาค่อนข้างแรงหรือไม่นั้น จะต้องจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 21-22 กันยายน 2564 โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการส่งสัญญาณลดวงเงินทำ QE เพราะหากส่งสัญญาณว่าจะทำการลดวงเงินทำ QE ภายในปีนี้ ก็จะส่งผลกดดันราคาทองคำ แต่หากส่งสัญญาณว่าการลดวงเงินดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นภายในปีนี้ ก็จะทำให้ราคาทองคำตอบรับข่าวดี โดยในช่วงนี้ตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆของสหรัฐถือว่ามีผลต่อราคาทองคำอย่างมาก ซึ่งในช่วงสัปดาห์ก่อนที่ราคาทองคำปรับลดลงสาเหตุหลักก็มาจากผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ของสหรัฐปรับตัวขึ้น รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่า
สำหรับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำนั้น หลังจากราคาหลุด 1,779-1,775 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทำให้ราคามีการปรับลดลงต่อ โดยแนวรับแรกจะอยู่ที่ 1,739 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หากยืนได้ราคาอาจดีดตัวกลับไปที่ 1,779-1,802 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งตราบใดที่ยังไม่ผ่านแนวดังกล่าวอาจจะปรับลดลงมาอีกครั้ง แต่หากผ่านไปได้และทะลุ 1,833 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,950 บาทต่อบาททองคำ ก็จะทำให้ทิศทางกลับมาเป็นบวก กลับกันหากราคาหลุด 1,739 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 27,500 บาทต่อบาททองคำ ยังไม่แนะนำให้รีบเข้าซื้อโดยอาจรอดูการตั้งฐาน และสัญญาณทางเทคนิคประกอบก่อนตัดสินใจเข้าซื้อ
ที่สำคัญ คือ ต้องคำนึงถึงความผันผวนของราคาจากผลการประชุมเฟด สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยอาจลดสถานะลงเพื่อควบคุมความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน แต่หากรับความเสี่ยงได้มาก อาจลงทุนในระยะสั้นตามกรอบการเคลื่อนไหวของราคา พร้อมตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ล่วงหน้าหากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์