ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ เนื่องจากนักลงทุนให้น้ำหนักกับสัญญาณบ่งชี้ว่าที่ว่าการชะลอตัวลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐกำลังส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐซบเซาลงด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.4596 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4554 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1.4633 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 2.0674 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 2.0595 ดอลลาร์ต่อปอนด์ และดอลลาร์แคนาดาแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.0373 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.0368 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์แคนาดา
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นแตะระดับ 110.69 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 110.05 เยนต่อดอลลาร์
ค่าเงินเยนได้รับแรงกดดันจากการที่นายกรัฐมนตรียาซูโอะ ฟูกูดะ ของญี่ปุ่นกล่าวว่า ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นแข็งค่าเร็วเกินไป ดังนั้นเจ้าหน้าที่ด้านการกำหนดนโยบายทางการเงินจึงจำเป็นต้องจับตาความเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนอย่างระมัดระวัง
นิตยสารไฟแนนเชียล ไทม์ รายงานบทสัมภาษณ์ของนายฟูกูดะว่า เขาเห็นด้วยที่จะให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นในระยะยาว แต่ในระยะสั้นนั้น ภาวะเงินเยนที่แข็งค่าจะสร้างปัญหาให้กับเศรษฐกิจในประเทศ ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการที่จะให้ค่าเงินมีความผันผวนมากนัก
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ในคืนวันพุธ (ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งนักลงทุนจะจับตาดูเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ว่า ภาวะชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัยได้ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคหรือไม่
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--