นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.45 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.38/40 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทปิดอ่อนค่า โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 33.37-33.48 บาท/ดอลลาร์ แกว่งตัวในกรอบใกล้เคียงกับ ภูมิภาค จากกระแสเงินทุนที่ไหลออก เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิพันธบัตรไทยประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท รวมทั้งมีความกังวลต่อ เศรษฐกิจโลก เช่น บริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ที่ขาดสภาพคล่อง ส่งผลให้ตลาดซื้อขายอย่างระมัดระวังสำหรับสกุลเงินตลาดเกิดใหม่
ทั้งนี้ ตลาดรอติดตามผลการประชุมจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเกิดขึ้นคืนนี้เป็นหลัก
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทของวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.30-33.50 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.49 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 109.37 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1732 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1725 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,619.59 จุด เพิ่มขึ้น 4.73 จุด (+0.29%) มูลค่าการซื้อขาย 79,028 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,032.19 ลบ.(SET+MAI)
- โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความเห็นจากหน่วยงานด้านเศรษฐกิจการคลัง/การวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อการ
- ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ชี้การขยายวงเงินเพดานหนี้สาธารณะของไทยเป็น 70% จากเดิมที่ 60% จะช่วยทำให้ความ
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของไทยยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้น ตามความต้องการระดมทุน
- นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เชื่อว่า ภาคการส่งออก ยังคงเป็นความหวังที่จะขับเคลื่อน
- ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจของไทยในปี 64 ลงมาอยู่ที่ 0.8% จากที่เคยคาด
- อดีตที่ปรึกษาของธนาคารกลางจีน (PBOC) ระบุว่า วิกฤตหนี้สินมูลค่ามหาศาลของบริษัทเอเวอร์แกรนด์จะฉุดรั้งการขยาย
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า ได้ติดตามสถานการณ์ของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ปอย่างใกล้
- ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมในวันนี้ว่า BOJ จะจับตาสถานการณ์ใน
- ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาและประเทศ
อุตสาหกรรมใหม่ในเอเชียปีนี้ลงสู่ระดับ 7.1% เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยตัวเลขดังกล่าวลดลง
จากระดับ 7.2% ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา และลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนเม.ย.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 7.3%