FEDเตือนปัญหาซับไพรม์อาจวิกฤติสุด เหตุลูกหนี้ผิดนัดชำระ-เมินประนอมหนี้

ข่าวต่างประเทศ Tuesday November 6, 2007 11:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          แรนดัลล์ ครอสเนอร์ หนึ่งในคณะผู้การธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในที่ประชุมสมาคมนายธนาคารที่กรุงวอชิงตันว่า ปัญหาในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพรม์) อาจ "เข้าขั้นวิกฤติที่สุด ก่อนที่จะที่ได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นได้"
ครอสเนอร์กล่าวว่า การที่เขามีมุมมองเช่นนี้ก็เพราะเหตุผล 2 ประการ ประการแรกคือ มีสัญญาณบ่งชี้มากมายที่ระบุว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง และราคาที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มชะลอตัวลง ประการที่สองคือ ตัวเลขการผิดนัดชำระหนี้และการเพิกถอนสิทธิการถ่ายถอนจำนอง ที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับเงื่อนไขการชำระหนี้
"เราคาดว่าตั้งแต่ไตรมาสนี้ไปจนถึงช่วงปลายปี 2551 จะมีการปรับดอกเบี้ยขึ้นอีก หลังจากช่วงต้นปีมีการปรับดอกเบี้ยจากระดับ 7% เป็น 9.5%"
"การที่จะฟื้นฟูตลาดซับไพรม์ให้ฟื้นตัวขึ้นไม่ใช่เรื่องง่าย เห็นได้จากผลสำรวจล่าสุดของเฟดที่บ่งชี้ว่า ธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐเพิ่มมาตรฐานการปล่อยกู้ในตลาดซับไพรม์ที่เข้มงวดขึ้น นอกจากนี้ มีสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ในตลาดซับไพรม์หลายแห่งที่ต้องปิดกิจการลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเม็ดเงินกู้ในตลาดยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำมาก" ครอสเนอร์กล่าว
นอกจากนี้ ครอสเนอร์กล่าวว่า "ขณะที่เฟดและหน่วยงานของรัฐอีกหลายแห่งพยายามสนับสนุนให้สถาบันการเงินกระตุ้นให้ลูกหนี้ที่มีปัญหาหันมาประนอมหนี้อย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้น กลับมีรายงานว่ามีลูกหนี้จำนวนไม่มากนักที่ยอมทำตามข้อเรียกร้องดังกล่าว
"เป็นเรื่องน่ากังวลใจอย่างยิ่งที่ลูกหนี้จำนวนมากไม่ยอมรับความช่วยเหลือหรือคำแนะนำจากสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ เพราะพวกเขาเชื่อว่าสถาบันการเงินเหล่านี้ไม่สามารถหรือไม่เต็มใจช่วยเหลือพวกเขา" ครอสเนอร์กล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ