นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกันยายน 2564 ว่า เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนกันยายนปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าในทุกภูมิภาค สะท้อนถึงความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เนื่องจากคาดการณ์ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีแนวโน้มคลี่คลายลง หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อปรับลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
- ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนือ อยู่ที่ระดับ 58.6 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตร เนื่องจากปริมาณน้ำที่มีเพียงพอต่อการเพาะปลูก ประกอบกับพืชเศรษฐกิจที่สำคัญกำลังจะออกสู่ตลาด เช่น ข้าวนาปี และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น สำหรับภาคอุตสาหกรรม คาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จะคลี่คลาย ทำให้ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นในการผลิตเพิ่มขึ้น
- ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออก อยู่ที่ระดับ 57.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ยางพารา และส้มโอ เป็นต้น ส่วนภาคอุตสาหกรรมคาดว่าจะมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าฟื้นตัวต่อเนื่อง
- ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคกลาง อยู่ที่ระดับ 57.6 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ เนื่องจากคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะคลี่คลายลงและทำให้มียอดคำสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ในส่วนของภาคบริการ คาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าวจะคลี่คลายลงเช่นกัน ซึ่งจะทำให้สถานบริการต่างๆ สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ
- ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ระดับ 55.8 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรกรรมและภาคการจ้างงาน เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวพืชเศรษฐกิจสำคัญ เช่น ข้าว และยางพารา เป็นต้น ส่วนภาคการจ้างงานนั้น คาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะคลี่คลายลง และมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น
- ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้ อยู่ที่ระดับ 52.4 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากในบางจังหวัดมีการเปิดรับนักท่องเที่ยว ทำให้สถานบริการที่ปิดตัวชั่วคราวสามารถกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะคลี่คลาย และทำให้ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น
- ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตก อยู่ที่ระดับ 51.0 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรกรรมและภาคการจ้างงาน เนื่องจากปริมาณน้ำมีเพียงพอต่อการทำการเกษตร ประกอบกับความต้องการสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น ส่วนภาคการจ้างงานคาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่คลี่คลายลง
- ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของ กทม.และปริมณฑล อยู่ที่ระดับ 45.6 สะท้อนภาวะอนาคตเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการลงทุนและภาคการจ้างงาน อย่างไรก็ดี ภาคอุตสาหกรรมยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น