นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ประสงค์จะขอกู้ยืมเพื่อการศึกษามากขึ้น คณะกรรมการกองทุนฯ ได้มีมติเห็นชอบในการขยายกรอบวงเงินการให้กู้ยืมแก่นักเรียน นักศึกษาผู้ประสงค์ขอกู้ยืมในปีการศึกษา 2564 จากเดิมที่กองทุนได้กำหนดกรอบการให้กู้ยืมไว้ 38,587 ล้านบาท สำหรับผู้กู้ยืม 623,891 ราย โดยได้เพิ่มกรอบวงเงินเป็น 40,000 ล้านบาท สำหรับผู้กู้ยืม 7 แสนราย เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบต่างๆ ให้กับนักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครองที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าว
ดังนั้น จึงขอให้ผู้ปกครองไม่ต้องเป็นกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายในการศึกษาของบุตรหลาน เนื่องจากกองทุนยืนยันว่ามีเงินให้กู้ยืมเพียงพอสำหรับนักเรียน นักศึกษาได้มีโอกาสได้เรียนต่ออย่างแน่นอน ซึ่งในปีนี้กองทุนได้รับชำระหนี้ประมาณ 32,000 ล้านบาท โดยจะนำเงินที่ได้รับจากการรับชำระหนี้มาหมุนเวียนให้กับผู้กู้ยืมโดยไม่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินแต่อย่างใด
ขณะนี้ กองทุนได้ขยายเวลายื่นขอกู้ยืมเงินภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564 นักเรียน นักศึกษาสามารถยื่นกู้ยืมผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยแอปพลิเคชัน กยศ. Connect หรือทาง www.studentloan.or.th โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันในการทำสัญญากู้ยืมเงินใหม่ ซึ่งกองทุนได้เปิดระบบ DSL ให้ผู้กู้ยืมและสถานศึกษาได้เริ่มดำเนินการกู้ยืมในปีการศึกษา 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 เป็นต้นมา ขณะนี้มีผู้ประสงค์ขอกู้ยืม จำนวน 616,834 ราย กองทุนได้อนุมัติการกู้ยืมเงินไปแล้ว 584,077 ราย
โดยเป็นปีแรกที่กองทุนได้เปิดให้มีการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาครบทั้ง 4 ลักษณะ ได้แก่ 1) นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ 2) นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลัก ซึ่งมีความชัดเจนของการผลิตกำลังคน และมีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ 3) นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขาวิชาขาดแคลน หรือที่กองทุนมุ่งส่งเสริมเป็นพิเศษ และ 4) นักเรียนหรือนักศึกษาที่เรียนดีเพื่อสร้างความเป็นเลิศในระดับปริญญาโท