กลุ่มนักวิเคราะห์จากสถาบันต่างๆคาดว่า ความสามารถในการทำกำไรของสายการบินจีนจะได้รับผลกระทบ หลังจากที่รัฐบาลได้ขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และการขึ้นค่าธรรมเนียมการบินก็อาจจะไม่สามารถชดเชยผลกระทบด้านลบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นได้
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า มอร์แกน สแตนลีย์คาดว่า กำไรสุทธิของสายการบินจีนปีหน้าจะต่ำลง 11% เหลือ 524 ล้านหยวน ขณะที่สายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์สคาดว่าจะมีกำไรลดลง 33% เหลือ 381 ล้านหยวน ส่วนสายการบินไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ส คาดว่า จะได้รับผลกระทบมากที่สุดในส่วนของรายได้ที่ร่วงลง 34% แตะ 401 ล้านหยวน
นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า สายการบินแอร์ไชน่าและไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส นั้นดีกว่าของไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ส เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่มีลักษณะผสมผสานมากกว่า หรือกลุ่มลูกค้าจากภาครัฐบาลและนักธุรกิจที่ไม่อ่อนไหวกับการขึ้นค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิงมากนัก
สายการบินแอร์ ไชน่า และไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ก็เป็นสายการบินที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับประโยชน์จากความสามารถในการให้บริการที่สนามบินปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ที่ตึงตัว ซึ่ง 2 เมืองดังกล่าวถือเป็นฐานการให้บริการของทั้ง 2 สายการบิน โดยสายการบินไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์สมีฐานการบินตั้งอยู่ที่เมืองกวางโจว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จีนได้ขึ้นราคาน้ำมันกลั่นทั้งหมด รวมถึงเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินอีก 500 หยวนต่อตัน หรือ 10% เพื่อลดภาวะขาดทุนของบริษัทกลั่นและจัดจำหน่ายน้ำมันของจีน ซึ่งไม่สามารถผลักภาระที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันดิบไปยังผู้บริโภคได้ โดยราคาน้ำมันใหม่ได้มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--