(เพิ่มเติม) ผู้ค้าทุกรายปรับขึ้นราคาเบนซิน-ดีเซล 40 สต./ลิตร มีผลพรุ่งนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 22, 2007 18:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) เปิดเผยว่า บริษัทจะปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศทุกผลิตภัณฑ์อีกลิตรละ 40 สตางค์ โดยมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันที่ 23 พ.ย.นี้เป็นต้นไป
โดยหลังจากปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศแล้วส่งผลให้ราคาน้ำมันทุกผลิตภัณฑ์ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่อีกครั้ง
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันขายปลีกในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลของสถานีบริการบางจากฯ จะเป็นดังนี้ เบนซิน 95 ลิตรละ 32.89 บาท, เบนซิน 91 ลิตรละ 31.59 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 28.89 บาท และดีเซลลิตรละ 29.34 บาท
ขณะที่คาลเท็กซ์ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลและแก๊สโซฮอล์เพียงลิตรละ 20 สตางค์หลังจากที่ปรับขึ้นไปก่อนหน้านี้แล้วลิตรละ 20 สตางค์ ส่วนเบนซินทุกชนิดปรับขึ้นอีกลิตร 40 สตางค์เท่ากัน
สำหรับภาวะการซื้อขายน้ำมันดิบในตลาดเอเชียเมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นไปเฉียด 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่วันนี้ได้ปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าระดับ 98 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บมจ.ปตท.(PTT) เปิดเผยว่า ปตท.จะปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดลิตรละ 40 สตางค์ โดยมีผลพรุ่งนี้เช่นกัน เพราะขณะนี้ผู้ประกอบการต่างประสบภาวะขาดทุนจากค่าการตลาดติดลบถึง 2 บาท/ลิตร เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกทั้งน้ำมันดิบและสำเร็จรูปล่าสุดพุ่งสูงขึ้นเป็น New High
โดยน้ำมันดิบดูไบ ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 89.92 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (สูงขึ้นถึง 5.15 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) น้ำมันเบนซิน95 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 103.63 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (สูงขึ้นถึง 5.14 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) และน้ำมันดีเซลพุ่งสูงขึ้นเช่นกันอยู่ที่ระดับ 110.87 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (สูงขึ้นถึง 6.66 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล)
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ภายในสัปดาห์เดียวราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นถึง 5-6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในขณะที่ก่อนหน้านี้ได้ปรับตัวสูงขึ้นตลอดและต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสำคัญจาก Energy Information Administration (EIA) ระบุว่าปริมาณสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐฯลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ระดับ 313.6 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 28 ล้านบาร์เรล และปริมาณสำรองน้ำมันสำเร็จรูป ลดลงเช่นกันถึง 2.4 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ระดับ 131 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 3 ล้านบาร์เรล ประกอบกับบริษัท Valero ในรัฐเท็กซัสและรัฐเทนเนสซี่ ได้ปิดโรงกลั่นฉุกเฉิน (กำลังการกลั่น 100,000 บาร์เรล/วัน)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ