นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)ในเดือน ต.ค.50 อยู่ที่ระดับ 118.4 เพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือน ก.ย.50 และเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.49
ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(Core CPI) ไม่รวมหมวดสินค้าอาหารสดและพลังงานในเดือน ต.ค.50 อยู่ที่ระดับ 106.1 เพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือน ก.ย.50 และเพิ่มขึ้น 1.0% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.49
ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา จากการที่ผัก ผลไม้ อาหารสำเร็จรูป และเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ มีราคาสูงขึ้นทำให้ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดิ่มปรับตัวสูงขึ้น 1.3% นอกจากนี้ยังมีปัจจัยจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่าขนส่ง ทำให้ดัชนีหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มปรับตัวสูงขึ้น 0.5% แม้จะมีการปรับลดค่าเอฟทีก็ตาม
ขณะที่ CPI เฉลี่ย 10 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ต.ค.50)เพิ่มขึ้น 2.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วน Core CPI เพิ่มขึ้น 1.1%
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เชื่อว่า จะสามารถดูแลระดับเงินเฟ้อในปีนี้ให้อยู่ในเป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่เกิน 2.5% แม้สถานการณ์ราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการตั้งสมมุติฐานเงินเฟ้อในปีนี้ไว้ที่ 2.0-2.5% จากการคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 65 ดอลลาร์/บาร์เรล
"แม้ว่าระดับราคาน้ำมันในปัจจุบันจะปริ่มจนล้นนิดหน่อย แต่ยังเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อทั้งปียังอยู่ในเป้าหมายที่ตั้งไว้คือไม่น่าเกิน 2.5% ซึ่งกรมการค้าภายในจะดูแลไม่ให้เกิดปัญหาต้นทุนเทียม รวมถึงให้กลไกตลาดทำหน้าที่ต่อไปได้ตามปกติ" นายศิริพล กล่าว
ด้าน นางนทีทิพย์ ทองเขาอ่อน ผู้อำนวยการสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ คือ สถานการณ์ราคาน้ำมัน แต่การแข็งค่าของเงินบาทเป็นผลดีที่ช่วยให้ราคาน้ำมันไม่สูงไปมากนัก
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--