(เพิ่มเติม) ครม.อนุมัติคลังขายหุ้น"ดอนเมืองโทลเวย์"ให้แบงก์ตปท.ก่อนดันเข้าตลาดฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 20, 2007 17:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          พ.อ.ประชาสัณห์ ชนะสงคราม ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงการคลังจำหน่ายหุ้นบมจ.ทางยกระดับดอนเมือง ให้แก่บริษัท แบ็บค็อก แอนด์ บราวน์ โทลโรดส์ โฮลดิ้งส์(ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 38.65 ล้านหุ้น คิดเป็น 12.88% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ถือโดยกระทรวงการคลัง ในราคาหุ้นละ 10 บาท โดยไม่ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)
จากการขายหุ้นดังกล่าวจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นในดอนเมืองโทล์เวย์ของกระทรวงการคลังลดลงเหลือ 29.53% ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว และภายหลังการสเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังลดลงเหลือ 25.1% โดยให้นำเงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นเข้าบัญชีเงินฝากเพื่อการซื้อหุ้น เพื่อนำไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนในกิจการที่อยุ่ในแผนของกระทรวงการคลังต่อไป
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการคลังขายหุ้นในบมจ.ทางยกระดับดอนเมือง(ดอนเมืองโทลเวย์) ให้กับธนาคาร BABCOCK & BROWN ที่จะเข้ามาเสนอซื้อหุ้นในสัดส่วน 17% ของทุนจดทะเบียน จากผู้ถือหุ้นทุกรายที่ราคาพาร์ 10 บาท เพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้นตามแผนการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)
หลังจากนี้ดอนเมืองโทลเวย์จะเสนอขายหุ้นให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP) และเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไป(IPO)เป็นครั้งแรก โดยคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อย่างเร็วในปลายไตรมาสแรกปี 51
นายอารีพงศ์ กล่าวว่า กำหนดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเร็วหรือช้าขึ้นกับการพิจารณาอนุมัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับต้องรอภาวะตลาดที่เหมาะสมในช่วงหลังการเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้นมากกว่านี้
ส่วนการนำโรงกลั่นเอสโซ่เข้าจดทเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น คาดว่าจะยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ภายในปีนี้เช่นเดียวกับดอนเมืองโทลเวย์ แต่โรงกลั่นเอสโซ่จะเข้าจดทะเบียนได้ราว เม.ย.51 หลังจากที่กระทรวงการคลังและเอสโซ่จะลดสัดส่วนหุ้นลง โดยกระทรวงการคลังจะลดสัดส่วนหุ้นให้เหลือ 7.5% จากเดิม 12.5% ขณะที่เอสโซ่จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 67.5% จาก 87.5%
ธนาคาร BABCOCK & BROWN เป็นธนาคารจากออสเตรเลีย โดยก่อนหน้านี้เข้ามาร่วมกับ บมจ.ล็อกซเล่ย์(LOXLEY) ยื่นประมูลโครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่(IPP)รอบใหม่นี้
ด้านนายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ดอนเมืองโทลเวย์มีแนวคิดจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปีหน้า ซึ่งกระทรวงการคลังจะขายหุ้นบางส่วนให้กับนักลงทุนต่างชาติ คือ BABCOCK & BROWN ในออสเตรเลีย
"บางส่วนเขาได้ซื้อจากผู้ถือหุ้นเดิม 17% และมีส่วนเพิ่มทุนอีก ทำให้เขามีหุ้น 32% โดยคลังจะลดลงเหลือ 25.1% จาก 30%" รมว.คลัง กล่าว
ส่วนกรณีของเอสโซ่นั้นได้ข้อยุติกันนานแล้ว เพราะบริษัทได้ทำเรื่องขอจดทะเบียนไว้ในปีหน้า ซึ่งภาครัฐได้สร้างแรงจูงใจให้แก่บริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปีหน้าด้วยการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 30% เหลือ 25% ส่วนตลาด MAI อยู่ที่ 20%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ