นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ตั้งแต่เริ่มโครงการ "สมุยพลัสแซนด์บอกซ์" เปิด 3 เกาะรับนักท่องเที่ยว 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. จนถึงปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวสะสม 1,018 คน โดยทุกคนได้รับการตรวจคัดกรองอย่างต่อเนื่อง และพบผู้ติดเชื้อเพียง 5 ราย ซึ่งนำเข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างเหมาะสมแล้ว ทั้งนี้สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 38,722,100 บาท ในขณะเดียวกันพร้อมเดินหน้าสร้างความมั่นใจพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเลด้วย 4 มาตรการด้านสาธารณสุข รวมทั้งจะเร่งฉีดวัคซีนกลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และสตรีมีครรภ์) เพื่อสร้างความปลอดภัยในพื้นที่
นายสาธิต กล่าวต่อว่า เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เป็นพื้นที่นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวทางทะเลอย่างปลอดภัย เพื่อขับเคลื่อนและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ โดยนักท่องเที่ยวที่เข้ามาทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดส ไม่ต้องกักตัว แต่ต้องได้รับการคัดกรองต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจทั้งกับนักท่องเที่ยวด้วยกันและประชาชนในพื้นที่ เป็นการต่อยอดจากโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์
สำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยได้ดำเนินการภายใต้ 4 มาตรการด้านสาธารณสุข คือ 1. การฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ที่ขณะนี้มีความครอบคลุมประชากรในพื้นที่ทั้ง 3 เกาะมากกว่า 70% และกำชับให้เร่งฉีดในกลุ่ม 608 เพื่อลดป่วยหนักลดการเสียชีวิต 2. การรักษาพยาบาล มีความพร้อมทั้งด้านเตียงรักษาผู้ป่วยทุกระดับสี โดยมีเตียงเกือบ 600 เตียง มียารักษาโรคชนิดฉีด และรับประทาน รวมทั้งมีระบบเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาทั้งการสอบสวนโรค ค้นหาเชิงรุก การตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการได้วันละ 1,200 คน และ 3. การควบคุมกำกับ สามารถชะลอโครงการทันทีหากพบผู้ติดเชื้อเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
"ขอชื่นชมการดำเนินงานสมุยพลัสแซนด์บอกซ์ เราจะเดินหน้าต่อไป ในการพัฒนาด้านการแพทย์และสาธารณสุข สร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว และเชื่อมั่นว่าในปี 65 เราจะสามารถฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรของประเทศได้ 70-80% เพื่อให้ประชาชนในประเทศปลอดภัย ประกอบอาชีพได้ และสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยว ร่วมกันเดินหน้าเศรษฐกิจของประเทศ" นายสาธิต กล่าว