กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า วิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อจะส่งผลกระทบไม่มากนักต่อเศรษฐกิจในทวีปยุโรป แต่หากความผันผวนในตลาดไม่คลี่คลายลงและเกิดขึ้นยืดเยื้อนานเกินไป ก็อาจส่งผลต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในยุโรปได้
"ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งจะช่วยให้เศรษฐกิจยุโรปสามารถฟันฝ่าสถานการณ์ผันผวนในตลาดการเงินไปได้ ยิ่งถ้าความผันผวนคลี่คลายลง ก็จะทำให้ประเทศยุโรปสามารถควบคุมผลกระทบได้ อย่างไรก็ตาม เรายอมรับว่าวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อได้ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศที่พัฒนาแล้ว" ไอเอ็มเอฟกล่าวในรานงานแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรป
ไอเอ็มเอฟระบุว่า "ที่ผ่านมานั้นธนาคารกลางยุโรปได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมมาโดยตลอด เพราะธนาคารกลางมองว่าความผันผวนในตลาดการเงินอาจทำให้เศรษฐกิจยุโรปเสี่ยงที่จะเผชิญช่วงขาลง แต่หากความเสี่ยงเริ่มลดน้อยลง ก็อาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางยุโรปปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง"
"ธนาคารกลางอังกฤษและธนาครกลางอื่นๆในยุโรปจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยภายใต้มาตรฐานเดียวกัน ความท้าทายของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางในประเทศยุโรปก็คือ การสร้างความเชื่อมั่นในตลาดการเงิน ส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำ ที่ผ่านมานั้น แม้ประเทศยุโรปสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ แต่ราคาอาหารและพลังงานเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา" ไอเอ็มเอฟกล่าว
สำนักขาวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า เนื่องจากความผันผวนในตลาดการเงินได้ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศยุโรปด้วย ไอเอ็มเอฟจึงคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยุโรปจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.1% ในปี 2551 จากปีนี้ที่ระดับ 2.5% และคาดว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะชะลอตัวลงแตะระดับ 2.3% จากระดับ 3.1%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--