ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์ถัดไป (11-15 ต.ค.) ที่ 33.40-34.20 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีน เม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ และสถานการณ์โควิด
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนส.ค. ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาสินค้านำเข้า/ส่งออกเดือนก.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนต.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และบันทึกการประชุมเฟดเมื่อ 21-22 ก.ย.
นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจจีนเดือนก.ย. และผลการประชุมของธนาคารกลางเกาหลีใต้ด้วยเช่นกัน
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินบาทเคลื่อนไหวแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 4 ปีครั้งใหม่ที่ 33.99 บาท/ดอลลาร์ ในระหว่างสัปดาห์ โดยเงินบาททยอยอ่อนค่าลงสอดคล้องกับหลายสกุลเงินในภูมิภาค ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นตามการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ โดยมีแรงหนุนจากข้อมูลดัชนี ISM ภาคบริการ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาด นอกจากนี้เงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงหนุนจากการคาดการณ์เกี่ยวกับจังหวะการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวขึ้นในระยะนี้เพิ่มแรงกดดันต่อภาวะเงินเฟ้อ