นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานเปิดโครงการสร้างรายได้ด้วยแฟรนไชส์ ฝ่าโควิด-19 ปี 2564 โดยระบุว่า กระทรวงพาณิชย์ตระหนักดีว่าการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ และการสร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจ ภายใต้วิกฤตโควิดในปัจจุบันจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจฐานราก โดยเฉพาะ SMEs และ Micro SMEs ซึ่งทั้ง SMEs และ Micro SMEs ส่วนหนึ่ง คือธุรกิจแฟรนไชส์ ที่มีมูลค่าตั้งแต่ระดับ 2,000 บาท ไปถึงระดับ 10 ล้านบาท ในปี 2564 มีแฟรนไชส์ของคนไทยจำนวน 597 แฟรนไชส์ มูลค่าการตลาดเฉลี่ยปีละ 300,000 ล้านบาท
"แฟรนไชส์ทั้ง 597 ธุรกิจ มีลูกช่วงที่เป็นผู้ซื้อแฟรนไชส์ไป 42,000 รายทั่วประเทศ ประโยชน์ของแฟรนไชส์ที่ทำให้เห็นได้ชัดเจน คือ ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันเป็นการช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ลดอัตราการว่างงาน และที่สำคัญสูงสุด คือ ช่วยธุรกิจ SMEs และ Micro SMEs ซึ่งเป็นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ" รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ระบุ
สำหรับโครงการนี้มี 2 กิจกรรม คือ 1.กิจกรรมแฟรนไชส์สร้างอาชีพ Roadshow ใน 15 จังหวัดทั่วทุกภาค ยกขบวนแฟรนไชส์ไปแสดงและขายลูกช่วง รวม 15 จังหวัด ตลอดเดือนตุลาคมนี้ จะช่วยขยายธุรกิจแฟรนไชส์ให้มีบทบาทในภาคเศรษฐกิจของประเทศมากขึ้น และ 2.จัดกิจกรรมรวมเป็นงานใหญ่ที่อิมแพค เมืองทองธานี ภายใต้กิจกรรม MOC แฟรนไชส์สร้างอาชีพ โดยจัด 5 วัน ช่วงเดือนธันวาคม 64 จะมีแฟรนไชส์กว่า 400 รายเข้าไปร่วม และจะมีการประชาสัมพันธ์ธุรกิจแฟรนไชส์ และขายลูกช่วงในงานด้วย ที่สำคัญคือ จะมีการขายลูกช่วงในราคาพิเศษ และจะมีโครงการจับคู่กู้เงินระหว่างสถาบันการเงินกับแฟรนไชส์เกิดขึ้นด้วย
"ถือเป็นโครงการจับคู่กู้เงินภาค 3 ต่อจากจับคู่กู้เงินสถาบันการเงินกับร้านอาหาร จับคู่กู้เงินสถาบันการเงินกับ SMEs ส่งออก ผลที่จะเกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรมนี้ คือ ช่วยให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาซื้อแฟรนไชส์ได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ราย จะช่วยให้ก่อเกิดการขายลูกช่วงหรือ ไลเซนต์ เฉพาะงานนี้ 1,500 ล้านบาท โดยกิจกรรมนี้จะเป็นตัวกระตุ้นยอดขายทั้งปีไม่ต่ำกว่า 4,600 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยเศรษฐกิจฐานราก พี่น้องประชาชนคนไทยให้สามารถก้าวผ่านวิกฤติ โควิด-19 ไปได้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการบูรณาการการทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ฐานรากของประเทศให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป" นายจุรินทร์ กล่าว
ด้านนายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า ธุรกิจแฟรนไชส์เป็นหนึ่งในธุรกิจบริการที่กรมได้ดำเนินการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ SMEs โดยเฉพาะธุรกิจภาคบริการให้มีความเข้มแข็ง เพื่อเป็นฟันเฟืองและกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 โดยนำธุรกิจแฟรนไชส์มาเป็นทางเลือกในการสร้างอาชีพสร้างรายได้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการสร้างอาชีพแก่ผู้ว่างงานจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และสร้างโอกาสการลงทุนให้กับผู้ที่ต้องการมีธุรกิจของตนเอง โดยมีหน่วยงานพันธมิตรในการบูรณาการความร่วมมือในการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์กับกรมฯ เป็นอย่างดี ได้แก่ สมาคมแฟรนไชส์และไลเซนต์ เละสถาบันการเงินทั้งภาครัฐและเอกชน